ศาลรธน.นัด 20 ธ.ค. ไต่สวน 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ -25 ธ.ค.' ก้าวไกล' ปม 'ม.112'
คดี"พิธา" อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อไอทีวี เข้าข่ายขัดคุณสมบัติ ฝั่งผู้ถูกร้องยื่น ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชี ระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล 2 รอบ ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนต่อ 20 ธ.ค.66 ส่วน การรณรงค์หาเสียง พันมาตรา 112 ศาลฯนัดไต่สวน 25 ธ.ค.
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสาร ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบ
มาตรา 98 (3) หรือไม่ เนื่องจากนายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้อง ว่างลงนับแต่
วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2) และศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชี ระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ตุลาคม 2566 และบัญชีระบุพยานบุคคล เพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566 โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาด้วยการอภิปราย และเห็นควรไต่สวนพยานบุคคลต่อไป จึงกำหนด วันนัดไต่สวนพยานบุคคล ในวันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30
พร้อมกันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ... มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาด้วยการอภิปราย และเห็นควรไต่สวนพยานบุคคลต่อไป จึงกำหนด วันนัดไต่สวนพยานบุคคล ในวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 เวลา09.30 นาฬิกา
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาด้วยการอภิปราย และเห็นควรไต่สวนพยานบุคคลต่อไป จึงกำหนด
วันนัดไต่สวนพยานบุคคล ในวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 เวลา09.30 นาฬิกา