ข่าว

สู้ไม่ถอย 'มาดามเดียร์' ชิงตำแหน่ง 'หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์' พรุ่งนี้

สู้ไม่ถอย 'มาดามเดียร์' ชิงตำแหน่ง 'หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์' พรุ่งนี้

08 ธ.ค. 2566

'มาดามเดียร์' เดินหน้าลงสมัคร 'หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์' แม้ สส. เตรียมเสนอชื่อ 'เฉลิมชัย' หวังเลือกจากความสามารถ ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์

น.ส.วทันยา บุนนาค "มาดามเดียร์" ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันต่อสู้ชิงตำแหน่ง "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ต่ออย่างแน่นอน

 

โดยระบุว่า หนทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่ไว้วางใจ กลับมาเป็นที่หวังของประชาชน คือ การทำจุดยืนทางการเมืองและการทำอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาชัดเจน และการที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนและสังคม ไม่ใช่เพื่อตัวเอง วันนี้กำลังเผชิญความท้าทายกับโลกต่างๆ เช่น การปฏิวัติเทคโนโลยี ภาวะโลกร้อน หรือปัญหาสังคมผู้สูงวัย ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ในขณะที่เราไม่สามารถก้าวข้าวกัดดักปานกลางไปได้ นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่ต้องเผชิญความท้าทายในอนาคต ดังนั้นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองจะต้องทำ คือ การที่เราเสนอทางออกในการก้าวไปรอเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเกิดขึ้นเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง และสุดท้ายต้องยึดและฟังความต้องกาาของประชาชน

น.ส.วทันยา บุนนาค

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงอยากบอกว่า ตั้งใจและศรัทธาในวิถีแห่งอุดมการณ์และนั่นคือเหตุผลทำไมจึงเสนอตัวเองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ "จะไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดใดๆ จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนของตัวเอง แต่จะขอสู้ให้ถึงที่สุด" 

 

ส่วนกรณีที่ 21 สส. มีมติเสนอนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ชิงหัวหน้าพรรค นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ไม่รู้สึกอย่างไร หากมีจำนวนแคนดิเดตหัวหน้าพรรคมากเท่าไหร่ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่สมาชิกพรรคจะมีตัวเลือกมากขึ้น แต่ในส่วนของความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเรื่องคำพูด น่าจะเป็นการตัดสินใจของประชาชน เมื่อเป็นเช่นนั้นจะรู้สึกอย่างไรกับพรรคและให้ความไว้วางใจพรรคหรือไม่ 

ส่วนความหวังเลือกหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันที่ตัดสินใจเพราะเราศรัทธาในวิถีอุดมการณ์แบบนี้ เรามีความฝันอยากทำการเมืองแบบนี้ ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะลงมือทำ ไม่ได้เป็นการตัดสินใจเพราะไปต่อรองผลประโยชน์ใดๆ ไม่ตัดสินใจถึงผลแพ้หรือชนะ จึงเป็นเหตุผลไม่ว่า สิ่งใดจะเกิดขึ้น "ขอทำตามความฝันและสู้จนถึงที่สุด" ซึ่งเคารพในเสรีภาพความเห็นที่แตกต่าง

 

ส่วนทิศทาง สส. ส่วนใหญ่เทคะแนนให้นายเฉลิมชัย เนื่องจากทำงานด้วยกันมากว่า 4 ปีแล้ว น.ส.วทันยา ระบุว่า ไม่สามารถตอบแทนสมาชิกคนอื่นได้ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งเหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะศรัทธาว่าเป็นพรรคที่มีประชาชนเป็นเจ้าของ ไม่มีใครเป็นเจ้าของกดปุ่มสั่งการ สมาชิกทุกคนมีเสรีภาพทางความคิดในการที่จะแสดงออก 

 

แต่หากไม่ได้รับเลือก น.ส.วทันยา ระบุว่า จุดนี้เป็นสิ่งที่ต้องกลับมาประเมินว่า หลังจากนี้ทิศทางพรรคจะยังคงเป็นเหมือนวันแรกที่เดินเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจใดๆ และยืนยันไม่ได้เป็นความผิดใคร พรรคเป็นเรื่องของพรรค สมาชิกเป็นเรื่องของสมาชิก ส่วนแนวอุดมการณ์ก็เป็นเรื่องของตัวตนเอง และแน่นอนว่าหากเราไม่เหมาะกับองค์กรใด ก็คงเป็นเรื่องของตัวเรามากกว่าที่จะต้องพิจารณาตัวเอง 

 

น.ส.วทันยา ฝากถึงสมาชิกพรรคว่า แม้ตนจะเป็นคนเลือดใหม่ ของประชาธิปัตย์ เข้ามาทำงานกับพรรคเพียงแค่ 1 ปีเศษ แต่เชื่อวิธีอุดมการณ์และเลือกขอยืนหยัดต่อสู้เพื่อที่จะทำตามความฝัน ความเชื่อ ความศรัทธา ซึ่งเชื่อว่าสมาชิกคนอื่นๆ มองไม่ต่างกัน พรรคจะไปไม่ถึงฟากฝั่ง หากไม่ได้รับการยินยอมพร้อมใจหรือได้รับการสนับสนุน แต่วันนี้พรรคไม่ได้อยู่ที่มือใคร การเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้จริงนั้น อยู่ในมือของพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นอยากขอโอกาสให้ในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) ขอให้ทุกคนได้เปิดโอกาสให้กับตนเอง ตั้งแต่การผ่านมติยกเว้นคุณสมบัติ นี่ไม่ใช่เปิดโอกาสเพียงให้ตนแข่งขันสู้หัวหน้าพรรค แต่เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคมีโอกาสเปลี่ยนแปลงในอนาคตด้วน

 

"ยืนยันตั้งใจมาด้วยตัวเอง หากต้องการฟื้นฟูพรรค ต้องเลิกเลือกจากความสัมพันธ์และระบบอุปถัมภ์ จุดนี้ไปให้ได้ต้องเลือกคนจากคุณสมบัติและความสามารถอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นจะนำสู่ปัญหาความขัดแย้งและความไม่เข้าใจกันในพรรค สุดท้ายคนที่เสียหายที่สุดคือประชาชน และพรรคจะสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถไป" น.ส.วทันยากล่าว

น.ส.วทันยา บุนนาค น.ส.วทันยา บุนนาค