โปรดเกล้า 'พ.ร.ฎ.หลักเกณฑ์-วิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่ง' 2 ครั้งต่อเดือน
เว็บไซต์ "ราชกิจจานุเบกษา" แพร่ประกาศ "พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร" มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2566 โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ก่อน ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566"
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ พ.ศ. 2539
ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้มีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งประจำเดือนของข้าราชการหรือผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ เดือนละสองครั้ง ให้กระทรวงการคลังกำหนดวันจ่ายให้สอดคล้องกับการจ่ายเงินประจำตำแหน่งดังกล่าว
ให้ข้าราชการหรือผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการมีสิทธิเลือกรับเงินประจำตำแหน่งตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด
ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ข้าราชการ สมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินประจำตำแหน่งประจำเดือนของข้าราชการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร ซึ่งไม่เป็นข้าราชการให้สอดคล้องกับการดำเนินการในกรณีดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
อ่านรายละเอียด ราชกิจจานุเบกษา