“ชนินทร์” ซัดรัฐบาลเลิกโยนบาป จี้ “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมนักโทษติดคุกทิพย์
“ชนินทร์” ฟาดรัฐบาลเศรษฐา เลิกโยนบาปรัฐบาลชุดเก่า ปมจัดสรรงบประมาณปี2567 ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น แจงสส.ประชาธิปัตย์ แตะนักโทษติดคุกทิพย์ ไม่ใช่แค้นส่วนตัว จี้ “พีระพันธุ์” เคลียร์ให้ชัดพิสูจน์คำพูดไม่เกรงใจใคร
นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต สส.กทม. กล่าวถึงกรณีสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า ขอเก็บตกประเด็นที่รัฐบาลพยายามให้เหตุผลว่า การจัดสรรงบประมาณบางส่วนที่ไม่เหมาะสมเป็นผลมาจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมานั้น เท่าที่ทราบตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาทำหน้าที่ มีกระบวนสั่งให้ทบทวนงบประมาณของกระทรวง ทบวง กรมทั้งหมดอีกครั้ง
โดยสำนักงบประมาณได้ทำหนังสือไปถึงทุกหน่วยงานให้ปรับงบประมาณเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล แล้วส่งกลับมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้นจึงได้เสนอต่อสภาฯ ถือว่าการชี้แจงของรัฐบาลลักษณะนี้ไม่ใช่การให้เหตุผล แต่เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น และถือว่าการจัดสรรงบประมาณ ได้ผ่านตารัฐบาลชุดนี้มาแล้ว ดังนั้นข้ออ้างดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง
นายชนินทร์ ระบุว่า ในการอภิปรายวาระแรก สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังต้องโทษ แต่ขณะนี้ดูเหมือนติดคุกทิพย์อยู่ ขอทำความเข้าใจว่าที่เราพูดไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือความแค้นส่วนบุคคล แต่เป็นบรรทัดฐานของกระบวนการยุติธรรมไทย ที่จะต้องทำให้เกิดความกระจ่าง
“ขอฝากถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ในฐานะได้รับหน้าที่ให้กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ต้องทำเรื่องที่สังคมเคลือบแคลงให้ชัดเจน นายพีระพันธุ์เคยพูดว่าไม่เคยเกรงใจใคร จึงเรียกร้องให้ดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อพิสูจน์คำพูดตัวเอง และขอความกรุณาให้ร่วมมือกับกลไกการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกับการทำงานของคณะกรรมาธิการการตำรวจ ที่จะเข้าไปดูแลเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างในสังคมว่า นักโทษทุกคนได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ไม่สองมาตรฐาน”รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นอกจากนี้ ในฐานะที่เคยเป็น สส.กทม. อยากให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ อย่าทอดทิ้งน้องเล็ก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ให้ต้องทำงานแก้ไขปัญหากรุงเทพมหานครอย่างโดดเดี่ยว เพราะมีแต่เรื่องสำคัญทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การจราจร น้ำท่วม ที่ยังต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือเอาใจใส่อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ แม้รอบนี้พรรคจะไม่มี สส.กทม. แต่พรรคจะดูแลคน กทม. และไม่ทอดทิ้ง โดยได้มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ นามบุตร แม้เป็น สส.อีสาน จังหวัดอุบลราชธานี แต่ได้นำความเดือดร้อนของพี่น้องชาว กทม. อภิปรายฯ ในสภาสะท้อนไปยังรัฐบาลให้เร่งดำเนินการแก้ไขต่อไปด้วย