ข่าว

ศรีสุวรรณ ยื่นป.ป.ช. ลงดาบ2 เอาผิด “ศักดิ์สยาม”  ปมซุกหุ้น

ศรีสุวรรณ ยื่นป.ป.ช. ลงดาบ2 เอาผิด “ศักดิ์สยาม” ปมซุกหุ้น

19 ม.ค. 2567

ศรีสุวรรณ ยื่นป.ป.ช.ลงดาบ2 เอาผิด “ศักดิ์สยาม” ปมซุกหุ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญ สั่งพ้น รัฐมนตรี หวังตัดสิทธิ์ทางการเมืองนับ 10 ปี เล็งยื่น กกต. สัปดาห์หน้า ลงดาบ 3 ยุบพรรคภูมิใจไทย

19 ม.ค. 2567 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เอาผิดกรณีผิดจริยธรรมร้ายแรงกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยระบุว่าจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลง เนื่องจากฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วน และหุ้นส่วนของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4 อนุมาตรา 1 ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 1 อนุมาตรา 5

 

ศรีสุวรรณ ยื่นป.ป.ช.ลงดาบ2 เอาผิด ศักดิ์สยาม ชิดชอบ  ปมซุกหุ้น

แต่เรื่องนี้ไม่จบลงที่การสิ้นสุดของการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งนายศักดิ์สยามก็ออกมาจากตำแหน่งรัฐมนตรีตั้งแต่การเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2566 แต่เนื่องจากผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นศาล องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นใด 

 

ศรีสุวรรณ ยื่นป.ป.ช. ลงดาบ2 เอาผิด “ศักดิ์สยาม”  ปมซุกหุ้น

 

ดังนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นที่สุดแล้ว ก็ย่อมจะผูกพันหน่วยงานอิสระอย่าง ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งการที่นายศักดิ์สยาม ได้นำเสนอบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไว้ยัง ป.ป.ช. ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยชัดเจน เพราะว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยาม ยังคงเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของหุ้นส่วนที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น 

 

 

จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องดำเนินการในเรื่องของการแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ รวมทั้งประเด็นมาตรฐานทางจริยธรรมด้วย ซึ่งน่าจะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในหลายๆ ข้อ โดยศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีมาตรฐานออกมาชัดเจนไว้ตั้งนานแล้ง ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความจำเป็นต้องให้ ป.ป.ช.ลงดาบที่สองกับนายศักดิ์สยามต่อไป

 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช. ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็เป็นหน้าที่ที่จะไปดำเนินการเอาผิดและลงโทษนายศักดิ์สยามต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีการเว้นวรรคทางการเมือง ไม่ใช่แค่ 1-2 ปี แต่จะต้องเป็น 10 ปี ซึ่งก็จะหมดสิ้นอนาคตทางการเมือง ซึ่งนอกจากดาบสองแล้ว ยังมีดาบสาม ดาบสี่ดาบห้า ตามมาอีก เพราะกรณีนี้ เราไม่ควรให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมือง หรือพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะไม่เช่นนั้นนักการเมืองจะใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองหลบเลี่ยง การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้วให้นอมินีมาดำเนินการในขณะที่ตัวเองมีอำนาจในกระทรวง ทบวง กรม แล้วก็สามารถเข้ามาประมูลงานแข่งกับคนอื่น ยิ่งทำให้รัฐเสียหาย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ ต้องมายื่นให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ

 

 

ส่วนกรณีดาบที่สองคือการหมดอนาคตทางการเมือง แต่ไม่ใช่เรื่องของการยุบพรรคใช่หรือไม่นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าเรื่องการยุบพรรคเป็นหน้าที่ของ กกต. ตอนนี้ดำเนินการในเรื่องของนายศักดิ์สยามก่อน ส่วนเรื่องยุบพรรคก็ต้องดำเนินการต่อไป เพราะบอกแล้วว่าจะต้องมีไม้สามไม้สี่ต่อไป เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจน เป็นที่สุดแล้ว และผูกพันกับหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้องจะเฉไฉเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โดยในสัปดาห์หน้าจะไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ในเรื่องของการยุบพรรคต่อไป

 

 

ส่วนกรณีที่นายศักดิ์สยามลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและ สส.แล้ว ถือว่ายังไม่จบใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ความผิดเกิดขึ้นในขณะที่นายศักดิ์สยามดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การลาออกจากตำแหน่ง สส. และเลขาธิการพรรคไม่เกี่ยวเลย เพราะความผิดเกิดขึ้นระหว่างที่ดำรงตำแหน่งไปแล้ว ผลผูกพันมาตั้งแต่การดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว

 

ศรีสุวรรณ ยื่นป.ป.ช. ลงดาบ2 เอาผิด “ศักดิ์สยาม”  ปมซุกหุ้น