นายกฯ เผย ครบรอบ 50 ปีไทย-จีน จีนตอบรับให้ “แพนด้า” สวนสัตว์เชียงใหม่
นายกฯ ย้ำ วีซ่าฟรีเริ่ม 1 มี.ค.67 เผย เชิญ สี จิ้นผิง เยือนไทยครบรอบสัมพันธ์ 50 ไทย-จีน ปีหน้า เตรียมเฮ รมว.ต่างประเทศจีน ตอบรับให้ “แพนด้า” กลับมาสวนสัตว์เชียงใหม่อีกครั้ง ขณะที่ภาครัฐ-เอกชน สนใจแลนด์บริดจ์แต่ขอข้อมูลเพิ่ม สุริยะ เตรียมบินทำโรดโชว์เร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลัง นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า ได้มีการพูดคุยกันหลายมิติ ซึ่งเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) ก็ได้มีการเซ็นสัญญากับ นายปานปรีย์ พหิธทานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าฟรี ที่ไม่ต้องขอวีซ่าในการเดินทางของทั้งสองประเทศ โดยจะเริ่มต้นวันที่ 1 มี.ค.2567 นี้ ถือว่าเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เป็นความไว้วางใจที่สองประเทศมีให้กัน มิตรภาพที่มีต่อกันมาก็จะครบ 50 ปีในปีหน้านี้ และถือเป็นมิติที่ดีที่จะสนับสนุนการไปมาหาสู่กัน อีกทั้งแน่นอนว่าการท่องเที่ยวถือเป็นความสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างสูง
ขณะเดียวกับนายหวัง อี้ ยังบอกว่าประเทศจีนมีวัฒธรรมที่หลากหลาย อยากให้คนไทยไปที่นั่น ตนก็บอกว่าเราสนับสนุนการเดินทางไปมาของประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันถึงจำนวนเที่ยวบินที่ยังไม่กลับเข้ามาสู่จำนวนปกติตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดที่มีจำนวน 2,000 ไฟลท์ ปัจจุบันมีแค่ 1,200 ไฟลท์ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการยกระดับให้ไปมาหาสู่กันสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งตนมั่นใจว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสูงขึ้น ประเทศไทยก็จะได้ไปท่องเที่ยวจีนถือเป็นผลดีของทั้งสองประเทศ
นายเศรษฐา กล่าวว่าประเทศไทยยืนยันเจตนารมณ์ให้การสนับสนุนการเป็นประเทศกลางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศจีนคุยกันอย่างหลายมิติ ซึ่งต่อไปก็ยินดีให้การสนับสนุนในการเจรจาลักษณะนี้เกิดขึ้น ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเองก็ระบุว่า ตอนที่มีดำริว่าจะมีการพูดคุยกัน ก็ระบุว่าต้องเป็นประเทศในเอเชีย ทางจีนก็บอกเองเลยว่าต้องเป็นประเทศไทย ซึ่งบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดี มีมิตรไมตรีจิตที่ดีต่อกันมาโดยตลอด อีกทั้งถือเป็นการประชุมประวัติศาสตร์ครั้งแรกๆ เลยก็ว่าได้
นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องของการค้าระหว่างประเทศ ก็ได้มีการพูดคุยในหลายมิติ ทั้งเรื่องการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ใช่แค่เรื่องรถยนต์อีวีอย่างเดียว ยังมีเรื่องรถไฟความเร็วสูงที่จะใช้เส้นทางผ่านจังหวัดหนองคายมุ่งหน้าไปยังประเทศจีน และยังมีเรื่องปัญหาเล็กน้อยคือเรื่องศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าก็มีการพูดคุยกัน รวมถึงเรื่องการค้าขายด้านเกษตรกรรมทั้งการค้าโคที่ประเทศจีนต้องการอย่างมาก แต่ด่านกักกันตรวจเชื้อโรคอยู่ที่ประเทศลาว ว่าทำให้การค้าไม่ค่อยสะดวก
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการคุยกันเรื่องหมีแพนด้า หลังประเทศไทยเคยมีแต่ปัจจุบันนั้นไม่มี และตนได้ไปดูในทวิตเตอร์ว่าประเทศที่มีหมีแพนด้านั้นเขามีกันกี่ตัวไล่ลงมาหลายประเทศแต่ประเทศไทยนั้นมีศูนย์ตัว ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนที่ดี ถึงความสัมพันธ์ด้านการทูตอย่างดีกับประเทศจีนตลอด 50 ปี ก็ได้เรียนขอกับนายหวัง อี้ ไปท่านก็ยินดี และเราจะมีหมีแพนด้ากลับมาอีกครั้งที่สวนสัตว์เชียงใหม่
ขณะเดียวกันยังมีเรื่องแลนด์บริดจ์ที่ทางนายหวัง อี้ เอ่ยขึ้นมาเองว่าประเทศจีนมีความสนใจ แต่ว่าต้องขอข้อมูลเพิ่ม รวมถึงภาคเอกชนก็มีความสนใจมีส่วนร่วม เพราะเขาทราบดีถึงเหตุผลหลักที่เราควรจะมีโครงการนี้ เพราะการลงทุนที่มีจากประเทศจีนหลายปีหลัง บริษัทใหญ่ในจีนเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย และจะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งออก ดังนั้นเราต้องมีท่าเรือน้ำลึก จะต้องมีโครงการเมกะโปรเจกที่จะมาซัพพอร์ตส่วนนี้ด้วย และทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะเดินทางไปทำโรดโชว์ที่ประเทศจีนด้วย
ส่วนมูลค่าทางการค้าจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ นายเศรษฐา บอกว่าตนคาดเดาไม่ได้ แต่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนี่คือจุดเริ่มต้น เรามีความสัมพันธ์อันดีกันอย่างยาวนาน ขณะที่ปีหน้าก็ครบ 50 ปีด้วย ตนก็ได้เรียนเชิญประธานาธิบดี นายสี จิ้นผิง ให้มาเยือนประเทศไทย