ข่าว

‘มาดามเดียร์’ ฉายภาพทิศทาง การเมือง-ประชาธิปไตยไทย

‘มาดามเดียร์’ ฉายภาพทิศทาง การเมือง-ประชาธิปไตยไทย

17 ก.พ. 2567

‘มาดามเดียร์’ ฉายภาพทิศทางการเมืองและประชาธิปไตยไทย สร้างพื้นที่และเสรีภาพให้ประชาชน ก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์

น.ส.วทันยา บุนนาค  ร่วมสัมมนาวิชาการด้านการเมือง การบริหารและกฎหมาย "The JOURNEY OF DEMOCRACY-การเดินทางของประชาธิปไตยไทย "

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ เวลา 17.00 น. ที่คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา น.ส.วทันยา บุนนาค อดีต สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมสัมมนาวิชาการด้านการเมือง การบริหารและกฎหมาย "The JOURNEY OF DEMOCRACY-การเดินทางของประชาธิปไตยไทย " จัดโดยคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

 

โดยช่วงหนึ่ง น.ส.วทันยา ชวนตั้งคำถามเกี่ยวกับการเมืองที่อยากเห็นต่อไป ว่า แท้จริงแล้วการเมืองหมายความว่าอะไร มีนักปรัชญาพยายามนิยามคำว่าการเมืองไว้มากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เมื่อศึกษาพบว่า นิยามหนึ่งของการเมือง คือ จะพูดถึงเรื่องของอำนาจ แล้วนำอำนาจไปใช้ในการไปจัดสรรประโยชน์เพื่อประชาชน หรือความเป็นจริงก็มีนักการเมืองบางคนที่ใช้อำนาจนั้นเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง นี่จึงเป็นที่มาของระบอบประชาธิปไตย เพราะกติการะบอบประชาธิปไตยเป็นกติกาที่ทำให้คนที่มีความเห็นที่แตกต่างหลากหลายอยู่ร่วมกันในสังคม แต่เป็นกติกาที่จะมากำหนดร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันและเป็นที่ยอมรับของสังคม แล้วเราช่วยกันจะพัฒนาประชาธิปไตยอย่างไรให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า ประชาธิปไตยของเราจะพัฒนาเข้มแข็งได้มากยิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญส่วนหนึ่งคือบทบาทในการสร้างบรรยากาศเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง  ตั้งแต่การกำหนดเจตนารมณ์การเมืองร่วมกันไปในอนาคต หรือบทบาทประชาชนที่จะเข้ามาเป็นคนตรวจสอบถ่วงดุลคนที่ใช้อำนาจต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความรัดกุม ถูกต้อง และตรงกับเจตนารมณ์ประชาชนมากที่สุด

 

"สิ่งที่สำคัญมากๆถ้าเราอยากจะเห็นการเมืองไทย และระบอบประชาธิปไตยของประเทศเราพัฒนาเติบโตไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างพื้นที่ให้กับประชาชนที่เขาจะมีเสรีภาพและเข้ามามีส่วนร่วมกับการเมืองให้ได้มากที่สุด" น.ส.วทันยา กล่าว

 

น.ส.วทันยา ยังกล่าวต่อถึง ระบบอุปถัมภ์ของไทย ว่า จากผลการเลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าระบบอุปถัมภ์ หรือบ้านใหญ่การเมืองท้องถิ่นได้เสื่อมสลายอำนาจไปในหลายจังหวัด ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีกับประเทศไทยที่จะพัฒนาการเมืองไปในอนาคต แต่สิ่งที่อยากจะเชิญชวนคือเราจะช่วยทำให้การเมืองไทยทั้งระบบสามารถก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ได้อย่างไร เพราะการที่เรายังมีระบบอุปถัมภ์ ระบบบ้านใหญ่อยู่ มันเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในประเทศไทย และเมื่อการเมืองเริ่มต้นเข้าด้วยระบบอุปถัมภ์ก็อาจจะนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย การทุจริตคอรัปชั่น และอาจจะนำไปสู่เงื่อนไขการรัฐประหารภาพที่เราไม่อยากเห็น ดังนั้นสิ่งที่ตนอยากเห็นการเมืองที่ก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์และเป็นพื้นที่กว้างเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่มีความสนใจการเมือง มีความรู้ ความสามารถ เข้ามานำเสนอตัวเองให้ประชาชนได้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น