ข่าว

‘เศรษฐา’ ประกาศเพิ่มท่องเที่ยว – ลงทุน 3 จังหวัดชายแดนใต้

‘เศรษฐา’ ประกาศเพิ่มท่องเที่ยว – ลงทุน 3 จังหวัดชายแดนใต้

28 ก.พ. 2567

‘เศรษฐา’ เยือน 3 จังหวัดชายแดนใต้ สั่งเพิ่มไฟลท์บิน ขยายด่าน เพิ่มการลงทุน อำนวยความสะดวกเข้าประเทศ เพิ่มศักยภาพท่องเที่ยวสู่ระดับโลก ดูแลภูมิภาคนี้อย่างเสมอภาค เท่าเทียม

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.​​กระทรวง​การคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นแหล่งดึงดูดการท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย หากพัฒนาให้ดีจะเป็นจุดหนึ่งที่สามารถเป็นจุดท่องเที่ยวของชาวโลกได้ด้วย สำหรับด่านศุลกากรที่เบตงมีความคับแคบจะต้องมีการพัฒนาต่อไป ระยะหลังมีการเปลี่ยนวิธีการปลูกพืชเศรษฐกิจจากยางพารามาเป็นผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งมีความต้องการสูงมากจากทั่วโลก ฉะนั้นด่านนี้จะต้องมีการพัฒนาให้เหมาะสม กับบริบทของเกษตรกรและเกษตรกรรม ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ต้องมีการขยายเลนส์ทางเข้าและ ออกอาจรวมไปถึงห้องเย็นด้วย ตรงนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญ มีการสั่งการแล้วจะให้ขยายด่านศุลกากรนี้รวมถึงใบ ตม .6 ที่ ทำไปแล้วที่ด่านสะเดา สงขลา ทำให้นักท่องเที่ยวแต่ละสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3 เท่า ทำให้การค้าหมุนเวียนได้ดีขึ้นมาก จึงสั่งการไปที่ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และรมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ไปปรับทุกด่าน ยกเลิก ใบตม.6 ทำให้การเข้าเมือง สะดวกสบายยิ่งขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่แค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเดียว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็เช่นกัน

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการพูด คุยถึงเรื่องของการขยายถนนจากยะลาไปจังหวัดอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางหลวง 410 หรือการเจาะอุโมงค์ ที่จะทำให้การจราจรดีขึ้น ตรงนี้อยู่ในแผนงานของ รมว.กระทรวงคมนาคม อยู่แล้ว โอกาสนี้ยังได้ไปเดินที่เบตง มีโอกาสได้ไปทานข้าว เห็นความคึกคัก ความปลอดภัย รอยยิ้มของพี่น้องที่มอบให้กับคณะของตนที่เดินทางลงมาในพื้นที่ เห็นศักยภาพของอำเภอเบตง เรื่องการท่องเที่ยวในอนาคตคิดว่าโรงแรมไม่เพียงพอ แหล่งเงินทุนเพียงพอหรือเปล่า อันนี้เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องไปตรวจสอบให้แน่ใจกับธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารอิสลาม เป็นแหล่งทุนที่ดีให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้

 

นายก​รัฐมนตรี​กล่าวว่า มา จ.นราธิวาส เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกมาเมื่อปลายปี ดูเรื่องน้ำท่วม วันนี้ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างถึงวัฒนธรรมที่ดี ได้ไปวัดและที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จริงๆแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่เคยทราบมาก่อนเลย ว่าประเทศไทยมีนักซ่อมคัมภีร์ศาสนาอิสลามระดับโลกอยู่ 2 คน ซึ่งคัมภีร์ต่าง ๆ ถูกส่งกลับมาซ่อมที่นี่ จึงบอกไปทางกระทรวงการต่างประเทศว่า ต่อไปนี้เรา จะต้องโปรโมทเรื่องนี้ และมีการสนับสนุนให้คนที่มีความสามารถซ่อมหรือเย็บเล่มคัมภีร์เหล่านี้ได้ และอีกสัปดาห์หนึ่งก็จะเข้าสู่เทศกาลของเดือนรอมฎอน เป็นเทศกาลที่ต้องมีความ อดทน อดกลั้น เป็นเทศกาล การให้อภัย ขออวยพรให้ทุกท่านมีความ สุข และภูมิภาคนี้จะได้รับการดูแลให้มีความเสมอภาค มีความเท่าเทียม

เมื่อถามว่า จะยกระดับสนามบินนราธิวาสอย่างไร เพราะว่ามีชาวมุสลิมทั้งไทยและมาเลเซียมาใช้มากเพื่อเดินทางไปทำฮัจญ์ นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่แค่มาเลเซียอย่างเดียว สิงคโปร์  อินโดนีเซีย ด้วย ได้เห็นถึงศักยภาพอยู่แล้ว โดยรัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะพยายามพัฒนาจุดท่องเที่ยวต่างๆ ให้เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว เริ่มแรกต้องเพิ่มไฟท์ ส่วนเรื่องด่านศุลกากรตรวจคนเข้าเมืองตนคิดว่าไม่มีปัญหา ตรงนี้เราอยากให้พี่น้องที่จะเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย สามารถบินจองได้เหมือนกัน

 

นายกฯ กล่าวย้ำว่า จุดประสงค์ในการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ เน้นเรื่องศักยภาพของเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องความไม่มั่นคง เกือบไม่มีแล้ว การที่เราได้ไปเมืองต่างๆ ได้เห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างมโหฬาร เชื่อว่านักท่องเที่ยวมีความมั่นใจอยู่แล้ว ส่วนการพูดคุยสันติภาพ นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร นายเศรษฐา บอกว่า ไม่มีนโยบายพรรคเพื่อไทย มีนโยบายของรัฐบาล เรามีการพูดคุยกันไปโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พูดคุย ทำงานควบคู่กับฝ่ายการต่างประเทศด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยกันตลอด