‘สุทิน’ แจง GBC ไทย - กัมพูชา กลางเดือนนี้ ไม่เกี่ยว ‘อุ๊งอิ๊ง’ พบ ‘ฮุนเซน’
‘สุทิน’ ชี้แจงการประชุม GBC ไทย - กัมพูชา กลางเดือนนี้ ไม่เกี่ยว ‘อุ๊งอิ๊ง’ พบ ‘ฮุนเซน’ ย้ำกระทรวงกลาโหม ไม่ล้ำเส้นพูดถึงสถานะเกาะกูด เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ กมธ.งบ ตีตกจัดซื้อเรือฟริเกต ก็จัดซื้อในแผนงบปีอื่น เรื่องเรือดำน้ำเตรียมได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
นายสุทิน คลังแสง รมว.กระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC.)ไทย - กัมพูชา ระหว่างวันที่ 21 -22 มีนาคม ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พบสมเด็จฮุนเซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชาว่า เป็นวาระปกติที่มีมาก่อนแล้ว มีการประชุมทุกปีไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น ส่วนที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เรียกร้องให้รมว.กระทรวงกลาโหม พูดให้ชัดเรื่องสถานะของเกาะกูดนั้น คิดว่า ทหารหรือ กระทรวงกลาโหม จะไปพูดชัดเลยไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศ เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปพูดออกหน้าหรือล้ำหน้าไปก็ไม่ถูก จึงต้องพูดตามบทหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมเท่านั้น
ส่วนกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 67 ตีตกคำอุทธรณ์ของกองทัพเรือ โครงการจัดซื้อเรือฟริเกต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัดส่วน สส.เพื่อไทย ว่า ทางกรรมาธิการฯ สะท้อนปัญหา และทวงถามนโยบายรัฐบาล ว่าถ้าจะให้ทั้งเรือฟริเกตและเรือดำน้ำในปีเดียวกัน งบประมาณกระทรวงกลาโหมจะโป่งพองขึ้น สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่จะลดบุคลากรและงบประมาณลงหรือไม่ จึงต้องมีการปรับแผน แต่ยืนยันว่าโครงการจัดหาเรือฟริเกตยังคงเป็นไปตามแผน เพียงแต่ระยะเวลาต้องปรับเปลี่ยน อาจจะไม่ใช่ปีงบ 67 แต่ขยับไปเป็นปีงบประมาณอื่น เพราะขณะนี้เรื่องเรือดำน้ำก็อาจจะได้ข้อสรุป ซึ่งมีแนวโน้มจะต้องจัดงบซื้อเรือดำน้ำ จึงห่วงว่างบประมาณจะไม่พอ ต้องทำทีละอย่าง ซึ่งทางกรรมาธิการคุยกับรัฐบาลก็มีความเห็นเป็นเช่นนี้ โดยอาจจะจัดหาในปีงบ 68
ส่วนงบประมาณ 1,700 ล้านบาท ของกองทัพเรือ จะนำเข้างบกลางหรือคืนให้กองทัพเรือ นายสุทิน กล่าวว่า หากเป็นไปตามระบบ ก็ต้องนำเข้างบกลาง แต่ถ้างบก้อนนี้กองทัพเรืออยากได้เงินส่วนนั้นมาทำภารกิจอื่น เช่น การซ่อมบำรุงยุทธโธปกรณ์ ก็ต้องทำเรื่องขึ้นมา ให้ทันก่อน 26 มีนาคม ที่จะปรับปรุงงบประมาณรอบสุดท้าย และเชื่อว่าทางรัฐบาลจะพิจารณาให้กลับมาเป็นประโยชน์กับกองทัพเรือ
ส่วนความคืบหน้าการหาข้อสรุปโครงการเรือดำนั้น นายสุทิน กล่าวว่า น่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ เมื่อสรุปแล้วน่าจะต้องเป็นเรื่องที่ใช้จ่ายงบประมาณในการจัดหา เบื้องต้นแนวโน้มก็คือเรือดำน้ำ แต่จะเป็นที่ไหนอย่างไรต้องฟังคณะทำงาน ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ยกเลิกเรือดำน้ำจีนแล้วไปจัดหาจากชาติอื่น ต้องไปสอบถามคณะทำงาน แต่แนวทางที่จะเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือชนิดอื่น คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะจากการสอบถาม พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหม ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาโครงการเรือดำน้ำ ก็บอกว่าต้องเป็นเรือดำน้ำ ส่วนจะเป็นเรือที่ไหนอย่างไร กรรมการยังคุยกันไม่เสร็จ แต่คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน
ส่วนเรื่องการจัดทำ OneMap มีความคืบหน้าไปตามลำดับ มีการประชุมนัดล่าสุดได้วิธีและนโยบายการทำงานแล้ว ก็จัดประชุมอีกครั้งเพื่อจะให้จบภายใน 2 เดือน ซึ่งตนก็จะเร่งให้ประชุมและจะแจ้งในที่ประชุมว่า ต่อไปนี้หากลงพื้นที่ก็จะให้ลงไปในลักษณะเป็นคณะ OneMap จะไม่ให้ไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อความเข้าใจและความรวดเร็ว