ข่าว

‘ปกรณ์วุฒิ’ ปัดข่าวตั้ง ‘พรรคก้าวใหม่’ สำรองรอยุบพรรค

‘ปกรณ์วุฒิ’ ปัดข่าวตั้ง ‘พรรคก้าวใหม่’ สำรองรอยุบพรรค

26 มี.ค. 2567

‘ปกรณ์วุฒิ’ ปฏิเสธกระแสข่าว ‘ธนาธร’ เตรียมตั้ง ‘พรรคก้าวใหม่’ สำรองรอยุบพรรค ประชุมใหญ่เมษานี้ ยังไม่เปลี่ยน กก.บห. ยังไม่ตั้ง ‘พิธา’ กลับมานั่งหัวหน้าพรรค

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ใช้ช่วงเวลาหนึ่งพูดคุยกับ สส.พรรค โดยประเมินเรื่องการยุบพรรคก้าวไกลว่าพรรคอาจจะถูกยุบแน่นอนว่า มีหลายข้อที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เช่น กระแสข่าวตั้งพรรคสำรอง “พรรคก้าวใหม่” ยืนยันไม่ได้มีการพูดในที่ประชุม สส.อย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่ามีการพูดเรื่องการเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะออกมาทางใดก็เตรียมพร้อมเต็มที่ โดยที่ประเมินไว้คือ ยุบพรรค กับไม่ยุบพรรค และในพรรคไม่ได้พูดคุยกันถึงความน่าจะเป็นว่าจะออกมาในทิศทางไหน เนื่องจากอำนาจไม่ได้อยู่ในมือ ซึ่งหากคำพิพากษาออกมาไม่ยุบพรรคก็ไม่ต้องทำมากเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป หรือหากกรณียุบพรรคก็ไม่ต้องทำมากยังคงเดินหน้าทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่าง

 

เพียงแต่ว่าเป็นการพูดคุยกันเพื่อให้เข้าใจดีว่า สส. ส่วนใหญ่เป็นสมัยแรก ที่อาจจะมีความกังวลไม่สบายใจ เลยต้องการปลุกใจในที่ประชุม สส. มากกว่า ไม่มีอะไรแค่บ้านหลังเดิมและเปลี่ยนป้ายชื่อ แค่นั้นไม่ได้คิดอะไรกันมาก” นายปกรณ์วุฒิกล่าว

 

ส่วนข้อมูลข่าวที่ระบุว่านายธนาธร กล่าวในที่ประชุมว่าหากมีการยุบพรรค ก็ขอให้ สส. ทุกคนไปพรรคใหม่พร้อมกันทั้งหมดนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าเป็นคำพูดของนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นการปลุกกำลังใจ ด้วยอยากให้ทุกคนเดินไปด้วยกันและต่อสู้ไปด้วยกันในเส้นทางที่สู้มาด้วยกันตั้งแต่ต้น

สำหรับการประชุมสามัญประจำปีของพรรคก้าวไกลตามกฏหมายที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนเมษายนนี้ จะเป็นการประชุมปกติโดยยังไม่มีการปรับเปลี่ยน คณะกรรมการบริหารพรรค และเท่าที่ทราบในขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยว่าจะเสนอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กลับมานั่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล เนื่องจากก่อนหน้านี้นายชัยธวัช ตุลาธน เคยให้สัมภาษณ์ไว้

 

ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อพบ สส. ในวันนี้ นายปกรณ์วุฒิ บอกว่า ก็เป็นสิทธิ์ของนายทักษิณที่จะเข้าไปพบใคร และเป็นสิทธิ์ของสังคมเช่นกันที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้บอกว่ามีอะไร ไม่ได้มองว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม มองแค่ว่าเป็นสิทธิ์ ในเมื่อเนื่องจากจะทำการแบบไหน ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เมื่อทำแล้วสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร นายทักษิณก็คงทราบดีว่าต้องรับคำวิจารณ์นั้น