ข่าว

เบื้องลึก ‘ทักษิณ’ นัดถกลับ ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ ดับไฟสงครามเมียนมา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เบื้องลึกแผนเชียงใหม่ ทักษิณ ดับไฟสงครามเมียนมา ถกลับกลุ่มชาติพันธุ์ อาสาเป็นคนกลาง ฝ่ายต่อต้านมินอ่องหล่ายกังขานายใหญ่

เจ้ายอดศึก ผู้นำไทใหญ่ กลายเป็นแกนหลักแผนสันติภาพเมียนมาของทักษิณ

 

โชว์บารมี ทักษิณ ดับไฟสงครามเมียนมา เจรจากลุ่มชาติพันธุ์ อาสาเป็นคนกลาง ฝ่ายต่อต้านมินอ่องหล่าย ยังกังขานายใหญ่เพื่อไทย

 

เผยข้อมูลลับ ทักษิณใช้เครือข่ายเจ๊ใหญ่ นัด 5 กลุ่มชาติพันธุ์ ถกสันติภาพที่เชียงใหม่ พบทั้งเจ้ายอดศึก และ พล.ท.บ่อจอแฮ 

 

สถานการณ์ในเมืองเมียวดีเงียบสงบ ไม่มีข่าวสงคราม แต่สื่อเมียนมาหลายสำนักประโคมข่าวใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร นัดพูดคุยตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่เชียงใหม่ เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา

วันที่ 7 พ.ค.2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อกรณีทักษิณ ชินวัตร เจรจากับกลุ่มชาติพันธุ์ว่า “ผมไม่ทราบว่ามีการไปเจรจาหรือเปล่า แต่เราเอง กระทรวงต่างประเทศ ฝ่ายความมั่นคงเอง มีการพูดคุยกับทุกกลุ่มอยู่แล้ว”

 

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว VOA Burmese รายงานข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ได้หารือกับตัวแทนจากกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงวันสงกรานต์

 

อ่านข่าวนี้แวบแรก ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะทักษิณ มีความคุ้นกับนายทหาร และอดีตนายทหารเมียนมา อาทิ พล.อ.หม่องเอ และ พล.อ.ตาน ฉ่วย รวมถึง พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย

 

ด้วยเหตุนี้ ทักษิณจึงอาสาเป็นคนกลาง ระหว่าง SAC กับฝ่ายต่อต้าน ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG)

 


สงกรานต์สันติภาพ

 

นับว่าการพบปะพูดคุยของทักษิณและฝ่ายต่อต้าน แบ่งเป็น 2 รอบคือ ครั้งแรก 13 เม.ย.2567 ทักษิณพบตัวแทนกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNLA) ,พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (KNPP) และองค์การแห่งชาติคะฉิ่น (KNO)  

 

ครั้งที่ 2 ทักษิณ พบกับ พล.อ.เจ้ายอดศึก ผู้นำสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS/SSA) และตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์อีกหลายองค์กร

 

นอกจากนี้ ทักษิณยังได้พูดคุยกับตัวแทนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ที่กรุงเทพฯ พร้อมกับ ซิน มา อ่อง รมว.ต่างประเทศ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ตัวแทนกลุ่มหนุนอองซาน ซูจี

 

มีข้อน่าสังเกต ทีมงานของทักษิณ ทำงานค่อนข้างฉุกละหุก จึงมีการเชื้อเชิญแบบผิดฝาผิดตัว อย่างกลุ่ม KNO ที่เข้าใจว่าเป็นกองทัพเอกราชคะฉิ่น(KIA) ซึ่ง KNO เป็นองค์กรการเมืองกลุ่มเล็กๆของชาวคะฉิ่น

 

กรณีการเชิญ พล.ท.บอ จ่อแฮ รอง ผบ.กองทัพ KNLA ไปประชุมที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นปีกการทหารของ KNU ภายหลัง จึงมีการประสานให้ประธาน KNU ไปพบทักษิณที่กรุงเทพฯ
 

กลุ่มชาติพันธุ์ไม่ไว้ใจ

แหล่งข่าวในกลุ่มชาติพันธุ์เปิดเผยว่า ทักษิณอยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้นในเมียนมา จึงขอเสนอตัวเป็นคนกลาง(Mediator) เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ในเมียนมาบรรลุข้อตกลงร่วมกัน

 

ในวงประชุม ทักษิณได้นำเอกสารแบบฟอร์ม มอบอำนาจให้ตัวเองเป็นคนกลางไปให้แต่ละกลุ่มลงนามด้วย

 

ว่ากันว่า เรื่องเอกสารมอบอำนาจให้ทักษิณเป็นคนกลาง กลายเป็นหัวข้อการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่ผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์

 

1.กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และฝ่ายต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมา ยังไม่ทราบว่า ทักษิณจะพาพวกเขาไปในทางไหน

 

2.ฝ่ายต่อต้านไม่มั่นใจว่า ทักษิณเข้าใจความสลับซับซ้อนของปัญหาการสู้รบในเมียนมามากน้อยแค่ไหน

 

3.การเชิญตัวแทนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ดูจะรีบร้อน ไม่ได้ศึกษาว่า ใครเป็นใครในกลุ่มต่อต้าน

 

4.ฝ่ายต่อต้านทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ และ NUG ไม่ประสงค์จะเจรจากับสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ในรูปแบบนี้ ไม่ต้องการเจรจาทีละกลุ่ม พวกเขาต้องการพูดคุยสันติภาพครอบคลุมทุกกลุ่มทุกชาติพันธุ์


5.กลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้พบทักษิณ มองว่า การแก้ไขปัญหาการสู้รบในเมียนมา จะทำไม่ได้ โดยไม่มีการเข้าร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ทางตอนเหนือคือ ว้า(UWSA) คะฉิ่น(KIA) โกก้าง(MNDAA) อาระกัน(AA) และตะอาง(TNLA) 

 

เหนืออื่นใด กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนอยู่ใต้อาณัติของพี่ใหญ่จีนทั้งสิ้น

 

“พวกเรามีความวิตกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของท่านทักษิณ เพราะเราไม่อยากจะขัดใจรัฐบาลไทย ที่ทำได้เวลานี้คือ ประวิงเวลา ยังไม่มีกลุ่มใดลงนามในเอกสารที่ท่านทักษิณยื่นให้” แหล่งข่าวในพื้นที่กล่าว

 

 

นับจากนี้ไป โปรดติดตามละครเรื่องสันติภาพเมียนมา ฉบับทักษิณ จะจบลงตรงไหน และจะมีการประชุมรอบใหม่อีกหรือไม่

logoline