น้องชายธนาธรแจงปมคดี จับทุจริต แต่กลายเป็นผู้ต้องหาเอง?
น้องชายธนาธร ออกจดหมายแจงปมติดสินบน 20 ล้าน ลั่นจับทุจริต แต่กลายเป็นผู้ต้องหาเอง ? กรณีเกี่ยวข้องกับข่าวการเช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินฯ
จากกรณีที่ ศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบกลางอ่านคำพิพากษาสั่งจำคุก นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คดีติดสินบน 20 ล้าน เกี่ยวกับการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 6 เดือนไม่รอลงอาญา ก่อนจะมีการยื่นหลักทรัพย์ ประกันตัวออกไป
ล่าสุด มีการออกจดหมายชี้แจงเพิ่มเติมระบุว่า ผมเป็นผู้แจ้งเบาะแสทุจริต แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต?
สรุปใจความสำคัญ ดังนี้
1. การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินของสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งมา ต่อมาภายหลังทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว
2. เมื่อทราบเรื่องจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยรีบแจ้งข้อเท็จจริง จนทำให้สำนักงานทรัพย์สินดำเนินคดีอาญากับบุคคลดังกล่าว จนศาลพิพากษาลงโทษ และคดีถึงที่สุดแล้ว
3. ปี 2562 ยังได้ไปให้การในฐานะผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว แตเนื่องจากในขณะนั้นติดภารกิจสำคัญอยู่ต่างประเทศจึงไม่ได้ไปให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวน
4. ในช่วงระหว่างการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงปลอมแปลงเอกสารสำนักงานทรัพย์สินฯกลุ่มนี้ ตั้งแต่ในชั้นสอบสวนกระทั่งถึงในชั้นศาล พนักงานสอบสวนไม่เคยดำเนินคดีใด ๆกับผมทั้งสิ้น
5. แต่กลับมี "นักร้อง." ไปร้องให้ดำเนินคดีกับผม กล่าวหาว่ารู้เห็นเป็นใจกับบุคคลนี้ และเป็นผู้ใช้ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวไปกระทำการทุจริต
ปิดท้ายด้วยการตั้งคำถามว่าหากลองพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม ว่าผมมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจริง เหตุใดต้องไปแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลอกลวง เพื่อให้ตนเองถูกดำเนินคดีไปด้วย
ผมคือผู้เสียหายจากการหลอกลวงของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่จำเลย การที่ผมเป็นผู้เริ่มคดีขึ้นเสียเองด้วยการแจ้งเบาะแสการทุจริตไปยังสำนักงานทรัพย์สิน ก็เพราะไม่อยากให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้รับความเสื่อมเสียจากการที่มีบุคลากรแอบแฝงกระทำการหลอกลวงผู้อื่นเช่นที่ผมพบเจอด้วยตนเอง
ผมเคารพในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น แต่ผมขอใช้สิทธิต่อสู้คดีจนถึงที่สุด และพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความสุจริตใจของผมตามครรลองของกระบวนการยุติธรรมต่อไป
สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ
21 พฤษภาคม 2567”