ข่าว

'ศาลปกครองกลาง' มีคำสั่ง ปลดล็อก '4ข้อ' การแนะนำตัว 'ผู้สมัครสว.'

'ศาลปกครองกลาง' มีคำสั่ง ปลดล็อก '4ข้อ' การแนะนำตัว 'ผู้สมัครสว.'

24 พ.ค. 2567

'ศาลปกครองกลาง' สั่งเพิกถอน 'ระเบียบ กกต.' เรื่อง 'การแนะนำตัว' ผู้สมัครสว. รวม '4ข้อ' โดยให้เหตุผลว่าขัดต่อหลักการจำกัดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

วันที่24พ.ค.2567 ศาลปกครองกลาง นัดฟังคำสั่งคดี นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับพวก ยื่นฟ้อง กกต. ขอ เพิกถอน ระเบียบ กกต. เรื่อง การแนะนำตัว ผู้สมัครสว.

 

โดย ศาลปกครองกลาง พิจารณาแล้วมีคำสั่ง ให้ เพิกถอน ระเบียบ กกต. ข้อ 3 เรื่องนิยาม การเเนะนำตัว เพิกถอน ระเบียบ กกต. ข้อ 7 ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวโดยใช้เอกสารมีข้อมูลยาวไม่เกิน2หน้ากระดาษเอ4 และแนะนำตัวได้ คือ ข้อมูลส่วนตัว,รูปถ่าย,กลุ่มที่ลงสมัคร,หมายเลขของผู้สมัคร,ประวัติการศึกษา,ประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงาน

 

เพิกถอน ระเบียบ กกต. ข้อ 8  ฉบับเเรก กำหนดว่า การแนะนำตัวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้สมัครสามารถทำได้ “ด้วยตนเอง” หมายความว่า หากจะแนะนำตัวผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ การส่ง การเผยแพร่ข้อความ จะต้องทำผ่านบัญชีส่วนตัวของผู้สมัครรายนั้น โดยการแนะนำตัวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิสก์ ผู้สมัครต้องใช้ข้อความเหมือนในเอกสารแนะนำตัวที่เป็นกระดาษตามกรณีแรก และเผยแพร่แก่ “ผู้สมัครอื่น”

หากผู้สมัครจะแนะนำตัว ผ่านทางช่องทางออนไลน์ เช่น การส่งข้อความทางไลน์ เฟซบุ๊ก หรือโซเชียลมีเดีย อื่นๆ ก็ต้องจำกัดส่งให้เฉพาะ “ผู้สมัครอื่น” หรือตั้งค่าให้เฉพาะ ผู้สมัครสว. เท่านั้นที่จะเห็นข้อความการแนะนำตัว ขณะที่สาธารณชน จะไม่สามารถเห็นได้เลยว่า ผู้สมัครสว. แต่ละคน แนะนำตัวกันอย่างไร หรือพูดอีกอย่างคือ ระเบียบ กกต. การแนะนำตัว เดิมถูกออกแบบมาให้เฉพาะ ผู้สมัครสว. พูดคุยกันเอง แนะนำตัวเองเท่านั้น

 

เพิกถอน ระเบียบ กกต. ข้อ 11 ห้ามผู้สมัครหรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร แนะนำตัวในกรณีดังต่อไปนี้ (2)ผู้ที่ประกอบอาชีพสื่อ-สายบันเทิง ห้ามใช้ความสามารถหรืออาชีพตัวเองเอื้อประโยชน์ในการแนะนำตัว และ (3) ห้ามแจกเอกสารแนะนำตัวด้วยการวาง โปรย หรือติดประกาศในที่สาธารณะ

 

โดย หลักๆศาลเห็นว่า ขัดต่อหลักการจำกัดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เสมอภาค และการเผยเเพร่เเนะนำตัวโดยไม่ผิดกฎหมาย

 

ส่วน (5) ที่ห้ามแนะนำตัวทางวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ ศาลเห็นว่าชอบเเล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน

 

 

ด้าน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. ) กล่าวถึงกรณี ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา เพิกถอน ระเบียบการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา ข้อ 7,8 และ11(2) ว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดคำพิพากษา คงพูดแทน กกต. ไม่ได้ แต่ในชั้นสำนักงาน อะไรที่ศาลตัดสิน แล้วเป็นประโยชน์กับประชาชน เราก็จะดำเนินไปตามนั้น ถ้าเป็นเรื่องการให้สิทธิกับประชาชนมากขึ้น สำนักงานจะคำนึงถึงตรงนี้เป็นหลัก ก็จะเสนอให้กับ กกต.

 

ส่วนจะมีโอกาสยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของ กกต. แต่โดยหลักการถ้าเป็นประโยชน์กับส่วนรวม และประเทศชาติสามารถเดินต่อไปได้ ก็ถือว่าเป็นไปตามโรดแมป

 

เมื่อถามว่า หาก เพิกถอน ไปแล้ว ใบประวัติแนะนำตัวสามารถเขียนเกิน 2 หน้ากระดาษ A4 ได้ จะกระทบต่อกระบวนการทำงานของ กกต. หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ไม่กระทบ

 

ทั้งนี้ จากคำพิพากษา กกต. ทำเกินกว่าหน้าที่ เป็นการจำกัดสิทธิ์ของประชาชนใช่หรือไม่ นายแสวง ระบุว่า ระเบียบแบบนี้ใช้ลักษณะนี้มาโดยตลอด เมื่อศาลพิพากษาว่าเราควรให้สิทธิ์ประชาชนมากกว่านี้ เราก็ต้องรับฟัง

 

ส่วนกังวลว่าจะมีคนไปร้องเรียนเพิ่มหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของประชาชน

 

ด้านบรรยากาศการรับ สมัครสว. วันสุดท้าย นายแสวง กล่าวว่า น่าจะเป็นวันที่คึกคักที่สุด แต่ยังไม่ได้รับรายงานตัวเลขที่ชัดเจน ภาพรวมกระบวนการรับสมัครน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ก่อนหน้านี้ก็ได้รับรายงานว่า มีการมา สมัครสว. เป็นกลุ่ม แต่ กกต. มองว่ายังไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ว่าผิด ซึ่งก่อนการวินิจฉัยต้องดูพฤติกรรมผู้สมัครก่อน แม้การสมัครรับเลือกบางกลุ่มอาชีพจะมีไม่ครบ ได้มีกฎหมายมารองรับแล้วว่าสามารถดำเนินการเลือกต่อไปได้ ส่วนในกลุ่มอำเภอหรือจังหวัด หากไม่มีผู้สมัครก็ไม่ต้องดำเนินการเลือก และไม่กระทบกับการเลือก สว. เพราะการเลือก สว. ไม่ใช่เลือกจากพื้นที่ เป็นการเลือกตัวแทนจากกลุ่ม 20 อาชีพ

 

ผู้สมัครสว. บางกลุ่มที่ถูกรายงานว่า มีแนวโน้มจะทุจริต ต้องสังเกตพฤติการณ์ตั้งแต่วันลงรับสมัคร แน่นอนว่า กกต. จะต้องจับตาดูเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มนี้ ในการดูแลไม่ให้เกิดการฮั้วกัน สามารถทำได้ง่ายเพราะจำกัดอยู่เพียงแค่ในพื้นที่

 

ส่วนการที่จะมีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกสว. รวมถึงวางตัวว่าใครจะเป็นประธานสมาชิกวุฒิสภาแล้ว เรื่องนี้ยืนยันว่ากฎหมายกำหนดไว้ว่า ห้ามพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือช่วยผู้สมัคร การที่มีกระแสข่าวออกไปและมีผู้วิพากษ์วิจารณ์ หรือให้ความเห็นทาง กกต. ก็พร้อมรับฟัง