ข่าว

เปิดทำเนียบ ฉลองคลอด “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” คึกคัก

เปิดทำเนียบ ฉลองคลอด “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” คึกคัก

18 มิ.ย. 2567

บรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลสุดคึกคัก หลังจากวุฒิสภาผ่านร่าง “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” มีการฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ไม่มีฝ่ายรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน พร้อมเตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030

ฉลองคลอดกฎหมายสมรสเท่าเทียม

18 มิ.ย.2567 สนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มีการเลี้ยงเฉลิม ฉลอง เพื่อแสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นของ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ภายหลังวุฒิสภามีมติผ่านในวาระ 2 และ 3 เป็นที่เรียบร้อย

 

นอกจากซุ้มนิทรรศการ และพรมสีรุ้ง ที่ปูยาวรอบ ทำเนียบรัฐบาล แล้ว ยังมีจุดไฮไลท์เช็คอินนั่นคือ มือลมสีรุ้งขนาดยักษ์ ตั้งอยู่กลางสนามหญ้า ส่วนกิจกรรมก็มีมากมายทั้ง workshop เพ้นท์สีแห่งความเท่าเทียม ตู้สติ๊กเกอร์ ซุ้มดอกไม้ และจุดถ่ายภาพแสดงสัญลักษณ์แห่งความเท่าเทียม

ขณะที่ภายในงานมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการเข้าร่วมงานด้วย อาทิ เอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ , มดดำ-คชาภา ตันเจริญ , วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา , ดีเจอ๋อง , ดีเจบุ๊คโกะ และเจ๊แขก เจ้าของร้านขนมครกเจ๊แขกแหกปาก จ.นครปฐม

 

วันนี้ มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รับหน้าที่เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ที่ป่วยเป็นโควิด-19

 

 

นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีหลายกระทรวงเข้าร่วมงาน พร้อมต้อนรับขบวนแรลลี่ของกลุ่ม LGBTQIAN+ และภาคประชาชน ซึ่งเดินทางมาจากอาคารรัฐสภา เกียกกาย มุ่งหน้ามายัง ทำเนียบรัฐบาล

 

ตัวแทนคู่รัก LGBTQIAN+ ได้กล่าวความรู้สึก บอกว่า รู้สึกขอบคุณ และอยากบอกว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุด ซึ่งเป็นวันที่รอคอยมาเกือบทั้งชีวิต อยากให้จารึกวันที่ 18 มิ.ย.2567 ไว้ ที่ประเทศไทยกล้าหาญมาก ที่ได้ตัดสินใจอย่างถูกต้อง และเห็นความเท่าเทียมของมนุษย์

ฉลองคลอดกฎหมายสมรสเท่าเทียม

 

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า 12 ปี ที่กฎหมายดังกล่าวผ่านสภาฉบับแล้วฉบับเล่า วันนี้กฎหมายได้ผ่านสภาแล้ว ต้องขอบคุณทุกฝ่าย ยืนยันว่างานนี้ไม่ใช่การเมือง เพราะไม่มีรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน แต่งานนี้ทำเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

 

พร้อมกับเชิญชวนหากใครต้องการจะแต่งงาน มาแต่งงานที่ประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน และเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชียที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม และในปี 2030 ประเทศไทยจะเสนอเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride

 

ก่อนที่นายภูมิธรรม จะมอบของที่ระลึก และช่อดอกไม้แห่งความเท่าเทียมให้กับกลุ่ม LGBTQIAN+ และภาคประชาชน  และปล่อยขบวนจากทำเนียบรัฐบาล ไปยังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครด้วย

 

ด้านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความยินดี หลังร่าง กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านสภา โดยระบุว่า

 

ผมขอชื่นชมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจากหัวใจ ที่ช่วยกันผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม จนผ่านมาถึงจุดนี้ พวกเราต่อสู้เรียกร้องกันมายาวนาน  เพราะเราเชื่อในสิทธิที่เสมอภาคและเท่าเทียมกันของคนทุกคน วันนี้เป็นเวลาของเราทุกคนแล้ว

 

กฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถแต่งงานกันได้แล้ว คู่รักที่แต่งงานกันยังมีสิทธิทุกอย่างตามกฎหมายเช่นเดียวกับสามีภรรยาทุกคู่

 

วันนี้เรามีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เราจะเดินไปด้วยกันต่อ เพื่อผลักดันกฎหมาย และข้อเรียกร้องอื่น ๆ อีก

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า งานฉลองที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (18 มิ.ย.67) เราฉลองให้กับความสำเร็จที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน ฉลองให้กับจุดเริ่มต้นของความรักที่เท่าเทียม ความหลากหลาย ไม่ใช่ ความแตกต่าง ขอให้ทุกความรักงดงาม และเต็มไปด้วยพลัง

ฉลองคลอดกฎหมายสมรสเท่าเทียม