ข่าว

"กกต." เตรียม ประกาศรับรอง 200 สว. 8 ก.ค.67 เมินผู้สมัครอกหัก ร้องนับคะแนนใหม่

08 ก.ค. 2567

"กกต." เตรียมพร้อมประกาศรับรองผู้ผ่านการเลือกให้เป็น "สว." ภายในวันนี้ ท่ามกลาง กลุ่มผู้สมัครสว.อกหัก เคลื่อนไหวคัดค้าน จี้ กกต.เปิดหีบนับคะแนนใหม่

8 กรกฎาคม 2567  ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า  มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า ภายหลัง กกต.มีการประชุมตามวาระปกติเสร็จสิ้น  จะมีการประกาศรับรอง ผู้ผ่านการ เลือกเป็น"สมาชิกวุฒิสภา"   ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 200 คน 


 
ทั้งนี้ ตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา  พ.ศ. 2561   วรรคท้าย ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรายงาน ผลการเลือกตั้ง แล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่า การเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม  ให้ประกาศผลการเลือก ในราชกิจจานุเบกษา โดยให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มตั้งแต่ลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่  10 เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากกลุ่มนั้น และผู้ได้รับคะแนนลำดับที่ 11 ถึงลำดับที่ 15 ของแต่ละกลุ่ม อยู่ในบัญชีสำรองของกลุ่มนั้น และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบ 

 

\"กกต.\" เตรียม ประกาศรับรอง 200 สว. 8 ก.ค.67 เมินผู้สมัครอกหัก ร้องนับคะแนนใหม่
 

ปลุกกดดัน กกต.เปิดหีบคะแนนเลือก สว. 

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ "พล.ต.ท. คำรบ ปัญญาแก้ว"  อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. และผู้สม้คร สว.กลุ่มกฎหมาย ซึ่งเดินสายร้องเรียนและยื่นฟ้องให้ล้มกระบวนการเลือก สว. เปิดเผยล่าสุดว่า ได้พยายามร้องต่อศาลต่างๆ แล้ว แต่น่าจะบังเกิดผลน้อย แต่ช่องทางที่คิดว่าน่าจะมีประสิทธิภาพที่สุด และมีหลักการหลักฐานมากที่สุดคือการเรียกร้องให้ กกต.เปิดหีบบัตรนับคะแนนใหม่ ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากโพยและบัตรที่มีการถ่ายภาพไว้ส่วนหนึ่ง พร้อมทั้งผลคะแนนที่ได้ลำดับต้นๆ ของแต่ละกลุ่มแล้ว เชื่อมั่นว่าเป็นการได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตที่เที่ยงธรรม อันขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาฯ 

 

ขณะนี้ได้ร้องไปที่ กกต. ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน และไปขอทราบผลอย่างต่อเนื่อง 3 ครั้งแล้ว โดยวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. จะไปอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 4 พร้อมกับนำผลวิเคราะห์เพื่อไปให้ กกต.ได้รู้วิธีการสืบสวนและสอบสวนในโครงข่ายนี้ ถ้ากกต.ไม่บิดพลิ้ว ยอมเปิดหีบบัตรลงคะแนน จะพบตัวต้นเหตุอย่างแน่นอน อาจมีผลกระทบต่อผู้มีคะแนนลำดับสูงของแต่ละกลุ่มเป็นจำนวนมาก 

 

ถ้าผลเกิดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ขอให้คนที่เห็นด้วยไปแสดงพลังเพื่อกดดันให้เปิดหีบบัตรคะแนนให้ได้ และมาตรการสุดท้ายถ้า กกต. ดึงดันประกาศรับรองผลโดยไม่เปิดหีบคะแนน ก็คงต้องดำเนินคดีอาญาต่อ กกต. และเลขาธิการ กกต. ข้อหาหลีกเลี่ยงจัดการลงคะแนนเลือก สว. ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งอาจพ่วงโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี ปรับ 20,000 ถึง 200,000 บาท และตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี รวมถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดว่าไม่มีใครในกลุ่มที่เรียกร้องอยากทำไปถึงตรงนั้น ภาวนาให้ กกต.เปลี่ยนใจยอมเปิดหีบแต่โดยดี ขอให้ผู้ที่เห็นด้วยไปช่วยกดดันเยอะๆ วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม เวลา 10.00 น.