ข่าว

"พล.ต.ท.คำรบ" นำทัพ ร้องกองปราบ ปม "เลือกตั้งสว.ไม่สุจริต"

"พล.ต.ท.คำรบ" นำทัพ ร้องกองปราบ ปม "เลือกตั้งสว.ไม่สุจริต"

11 ก.ค. 2567

"พล.ต.ท.คำรบ" นำทัพ คณะสว.ร้องกองปราบ แจ้งความ ดำเนินคดีกกต.7 และ เลขากกต.ปม ให้มีการลงคะแนนโดยไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม

11 ก.ค. 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  พลตำรวจโท  คำรบ ปัญญาแก้ว(อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.) และคณะผู้สมัครสว. เข้าร้องทุกข์แจ้งความ ดำเนินคดีกกต. ทั้ง 7 คน และเลขากกต.กรณีดำเนินการจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งสว.ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

 

พลตำรวจโทคำรบ ระบุว่า ครั้งนี้มองเห็นถึงความไม่เที่ยงธรรมของการลงคะแนนจึงมาที่กองปราบเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกกต.ทั้ง 7 ท่าน และเลขากกต.ซึ่งรายละเอียดจะแจ้งให้ทางพนักงานสอบสวนทราบอีกครั้ง

 

เนื่องจากเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.2567) เลขากกต.ได้แถลงข่าวตั้งพลตำรวจโทคำรบได้ข้อสังเกตในการแถลงข่าวเลขรกกต.ว่าอาจจะเตรียมพร้อมไม่ดี เพราะมีการพูดจาในลักษณะวกไปวนมา

 

ซึ่งตนสามารถสรุป เลขากกต. ระบุได้ 3 ประเด็น คือกกตพบเห็นสิ่งผิดปกติ ระหว่างการลงคะแนน โดยแยกเป็นเรื่องคำร้องเรียนไว้ 3 ประเด็น คือ
1.เรื่องของการร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัครที่ไม่ครบและไม่ถูกต้อง คนตั้งแต่ระดับอำเภอ-จังหวัด ซึ่งกกตระบุว่าไม่ถูกต้องประมาณ 65% และมีบัตรถูกร้องเรียนประมาณ 800 
นั่นหมายความว่ามีผู้คุณสมบัติไม่ครบประมาณ 600 กว่าราย

 

2.พบว่ามีคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกอาจจะไม่เรียบร้อยติดมารับคำร้องประมาณ 3 เรื่องซึ่งแค่ 3 เรื่องควรระบุได้ว่าเป็นเรื่องใดบ้างแต่กลับไม่ระบุ

3. เรื่องการร้องเรียนการลงคะแนนไม่สุจริตเที่ยงธรรมโดยพลตำรวจโทคำรบ อ้างว่าสามารถจำตัวเลขที่เลขากกต.แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีทั้งหมด 47 เรื่อง เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ปปง.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมสอบสวนคลี่คลาย ซึ่งกรณีดังกล่าวพลตำรวจโทคำรบตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ยังไม่รับรู้ในเรื่องของการพิสูจน์แต่มาด่วนสรุปว่าสุจริตและเที่ยงธรรม และจะใช้อำนาจตามมาตรา 42 ว่าหลังจากลงคะแนนได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการลงคะแนนโดยสุจริตและเที่ยงธรรมจึงประกาศรับรองสว.ซึ่งขัดแย้งกับที่เคยระบุไว้ว่ายังค้างคาอยู่ 47 เรื่อง 

ในมาตรา 42 ระบุว่าหลังลงคะแนนควรเก็บไว้ 5 วันเป็นอย่างน้อยซึ่งสามารถเก็บไว้กี่วันก็ได้ จนสามารถพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมจึงค่อยประกาศว่าถูกต้อง 

พลตำรวจโท คำรบ ระบุเพิ่มเติมว่า เดิมวันนี้อยากจะแจ้งเพียงแค่มาตรา 32 แต่หลังจากพิจารณาแล้วคาดว่าจะต้องนำมาตรา 157 เข้ามาประกอบด้วย 

"วันนี้เป็นความชอบธรรมที่ผมและคณะจะมาแจ้งความดำเนินคดีต่อท่านโทษฐานที่เบียดเบียนการปฏิบัติตามหน้าที่เป็นความผิดตามมาตรา 32 และมาตรา 157"
พลตำรวจโท คำรบกล่าว

 

“ส่วนสาเหตุที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ ก็เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลในการเลือกสว. ที่มองว่า เบอร์ที่ได้เป็นการล็อกโหวต และในการขานคะแนนของแต่ละกลุ่มก็เป็นการเลือกเหมือนกันตามโพย ที่ผ่านมาเคยไปยื่นคำร้องที่ กกต. พร้อมทวงถามความคืบหน้าแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ก็ยังไม่ได้ถูกรับฟัง แต่กลับมาประกาศรับรองผล จึงมองว่า ถึงเวลาที่จะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะถือว่ามีความผิดตาม ม.32 ที่ไม่ทำให้กระบวนการคัดเลือกสว.เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม

 

พลตำรวจโทคำรบ ยังระบุอีกว่า ระหว่างที่มีการประกาศพบว่ามีการส่งสำเนาเอกสารทางไลน์ ซึ่งทำให้ตนเองไปสังเกตเห็นว่าบางอันไม่มีลายเซ็นต์ จึงได้ตรวจสอบในฐานะพิสูจน์หลักฐานเก่า และได้พิสูจน์ลายเซ็นต์ ของประธาน กกต. จึงขอฝากเรื่องนี้ไปด้วยว่า ประธาน กกต. เซ็นต์จริงหรือไม่ หรือมีการแอบอ้างลายเซ็นต์ หากเป็นการแอบอ้างก็ขอให้ดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะเดินทางไปที่ศาลฎีกา เพื่อต้องการการคุ้มครอง ว่า กกต.ไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่ในการจัดการลงคะแนนให้เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม และขอให้มีการคุ้มครองฉุกเฉิน และมีคำสั่งเปิดหีบ เพราะคือหัวใจสำคัญในการพิสูจน์เรื่องราวทั้งหมด