"พิธา" ไม่กังวลผลคำวินิจฉัย ศาล รธน. คดียุบพรรคก้าวไกล มั่นใจข้อต่อสู้ทางกฎหมาย | คมชัดลึก

2 ส.ค.2567 ที่ พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงเนื้อหา และสรุปข้อต่อสู้ในเอกสารคำแถลงปิดคดี ที่พรรคก้าวไกลส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล 7 ส.ค. 67

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ว่า ตนเองคงไม่ขอก้าวล่วงประเมินไปข้างหน้า แต่มั่นใจในข้อเท็จจริง และมั่นใจในเรื่องของข้อกฎหมายที่อธิบายไปแล้ว แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการยืนยันข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายทางของเรา และเชื่อว่าพรรคก้าวไกล จะได้รับความยุติธรรม

โดยตั้งแต่ปี 2549 มีพรรคการเมืองถูกยุบไปทั้งหมด 33 พรรค มีนักการเมืองถูกตัดสิทธิไปอย่างน้อย 249 คน และมีการยกคำร้องประมาณ14ปีที่แล้ว เป็น 1ใน 34พรรคที่รอด พรรคนั้นรอดไม่ถูกยุบ และยกคำร้อง เพราะกระบวนการยื่นคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนเหตุผล 9 ข้อ ที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคแถลง เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลมั่นใจหรือว่า ผลคำวินิจฉัยจะออกมาเป็นบวก นายพิธา กล่าวว่า มั่นใจ เราไม่สามารถก้าวล่วงหรือคาดเดาสิ่งที่จะเป็นคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญให้ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ การยืนยันข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายของเรา และเชื่อว่าพรรคก้าวไกล จะได้รับความยุติธรรมเหมือนกับพรรคหนึ่งที่เคยได้รับเมื่อ 14 ปีที่แล้ว และบรรทัดฐานพิจารณาก็จะเป็นไปตามหลักสากล ดังนั้นไม่กังวล เพราะคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง

ส่วนการเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชน ภายหลังจากตัดสินคดีนั้น มองว่า คงไม่สามารถคาดเดาแทนที่พี่น้องประชาชนได้ หวังว่า ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี และแน่นอนว่า การเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมเป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถทำได้ ในระบอบประชาธิปไตยที่ไร้ความรุนแรง พรรคก้าวไกลจะไม่เป็นส่วนร่วมในการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกลแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากคำวินิจฉัยไม่เป็นคุณกับพรรคก้าวไกล นายพิธา ระบุว่า มีคิดไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้ขอโฟกัสในการใช้เวลาช่วงนี้ ทำหน้าที่ สส. อย่างเต็มที่ วันพุธ (7 ส.ค.) ช่วงเช้ายังมีคิวต้องอภิปรายในสภา ทำหน้าที่อย่างมีสมาธิกับสิ่งที่พี่น้องประชาชน 14 ล้านคนเคยให้คะแนน ยังทำหน้าที่ สส. เหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกเสียสมาธิ แต่แน่นอนยังต้องมีกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่สมาธิทำงานเพื่อประชาชนยังเหมือนเดิม

ส่วนในวันที่ 7 ส.ค. นี้ จะมีประชาชนออกมาแสดงความเคลื่อนไหวหรือไม่ ตนไม่สามารถคาดเดาแทนประชาชนได้ หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี แต่แน่นอน การเข้าถึงสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมเป็นสิ่งที่ประชาชนทำได้ ในระบบประชาธิปไตยที่ไร้ความรุนแรง ยืนยันพรรคก้าวไกล ไม่มีเจตนาสร้างความรุนแรง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล และ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการปลุกมวลชน แต่เป็นการมีส่วนร่วมของประชาชนมาโดยตลอด ทั้งสมาชิกพรรค และเจ้าหน้าที่พรรค

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า ดีลพรรคถิ่นกาขาว เป็นพรรคสำรอง ใช่หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ตอนนี้โฟกัสการสู้คดีเรื่องการยุบพรรค เมื่อถึงเวลาตอนนั้น คงพูดคุยอีกที แต่ตอนนี้พรรคยังไม่มีมติใดๆ ทั้งสิ้น หากคำตัดสินไม่เป็นคุณ ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคใหม่แล้ว คงตอบแทนไม่ได้ แต่ยังเชื่อว่าในวันพฤหัสบดี จะทำหน้าที่ให้สภาผู้แทนราษฎรเหมือนเดิม พร้อมยืนยันว่า สส. ของพรรค ยังรักษาความเป็นปึกแผ่นเหมือนเดิม ไม่มีตามที่มีกระแสข่าว และมีการพูดคุยถึงเรื่องการทำงานเพื่อตรวจสอบรัฐบาลเหมือนเดิม ไม่มีอะไรต้องห่วง