ย้อนเหตุร้อง “ยุบพรรคก้าวไกล” กับข้อต่อสู้ของ “พิธา”
ย้อนปมเหตุแห่งการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ “ยุบพรรคก้าวไกล” กับข้อต่อสู้ ตามคำแถลงของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
การวินิจฉัยคดีร้องยุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.2567 เป็นคดีใหญ่ที่ถูกจับตาอีกครั้ง เพราะแน่นอนว่าหากผลการตัดสินไม่เป็นคุณกับพรรคก้าวไกล จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพรรคการเมืองอีกครั้งอย่างแน่นอน
คมชัดลึกออนไลน์ ไล่ย้อนมูลเหตุแห่งการร้องขอให้ “ยุบพรรคก้าวไกล” ดังนี้
31 ม.ค.2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า กรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 (ในขณะเกิดเหตุ) และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง และพ.ร.ป.วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 74
1 ก.พ. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยุบพรรคก้าวไกล อ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31 ม.ค.2567
12 มี.ค. 2567 กกต. มีมติเอกฉันท์ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
18 มี.ค.2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้รับมอบหมายจาก กกต. ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
โดยคำร้องดังกล่าวเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเป็นมติเอกฉันท์ ว่าการที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคในขณะนั้นและพรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง
3 เม.ย.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ถึงความคืบหน้าคดีว่า ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณารับคำร้อง กกต. ยื่นยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้อง และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้อง และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง
ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง โดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งให้ยื่นเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
ขณะที่ พรรคก้าวไกล โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แถลงข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล โดยเน้นย้ำในประเด็นกระบวนการยื่นคำร้องของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย , คำวินิจฉัยที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ไม่ผูกพันกับการพิจารณาคดีนี้ และโทษยุบพรรคเป็นมาตรการสุดท้ายที่ใช้เมื่อจำเป็นฉุกเฉินและไม่มีวิธีแก้ไขอื่น
โดยแยกย่อยได้ประมาณ 9 ข้อ อาทิ
- ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีนี้
- กระบวนการยื่นคำร้องของคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- คำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.2567 (ถูกร้องเสนอแก้ มาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง) ไม่ผูกพันการวินิจฉัยคดีนี้
- การกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์
- การกระทำตามคำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.2567 ไม่เป็นมติพรรค
- โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้าย เมื่อจำเป็น ฉุกเฉิน ฉับพลัน และไม่มีวิธีแก้ไขอื่น
- ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
- จำนวนปีในการตัดสิทธิทางการเมือง ต้องมีสัดส่วนสอดคล้องกับความผิด
- การพิจารณาโทษต้องสอดคล้องกับกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ถูกกล่าวหา