"เศรษฐา" ลั่น! ไม่ยอมให้ใครก้าวก่ายระบบตุลาการไทย หลัง "พิธา" คุยทูต 18 ประเทศ
"เศรษฐา" ลั่น! ไม่ยอมให้ใครก้าวก่ายระบบตุลาการไทย หลัง "พิธา" คุยทูต 18 ประเทศ คดียุบพรรคก้าวไกล ย้ำ กระบวนการยุติธรรมไทย เป็นกลาง สากลยอมรับ
6 ส.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล หารือทูต 18 ประเทศถึงคดียุบพรรค จนหลายฝ่ายกังวลจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ ว่า
ก่อนอื่นต้องบอกว่าตนไม่ทราบว่ามีการคุยกันในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะมีการพบกันแต่ไม่ทราบเนื้อหาว่ามีการพูดคุยอะไรกันบ้าง แต่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ส่วนตัวคิดว่าทั้ง 18 ประเทศ ระบบยุติธรรมและระบบบริหารแยกกันชัดเจน ฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายกับกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ก็เป็นกลางและเป็นสากลได้รับการยอมรับจากทุกๆ ฝ่ายอยู่แล้ว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงพูดแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ส่วนตัวตนเคารพกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวทุกคนคงทราบไม่ว่าจะเป็นกรณีของตน ตนเข้ามาเป็นนายกฯ เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าหากมีประเด็นหรือมีผู้ร้องเรียน ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องแจ้งไปที่ระบบยุติธรรม และคอยการตัดสิน อย่างของตนก็ได้ยื่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็คอยวันตัดสิน 14 ส.ค. และตนก็ไม่ได้มีการไปพูดคุยอะไรกับใครทั้งสิ้น และประเทศของเราก็เป็นเอกราช แต่ก็ต้องให้ให้เกียรติทางนั้นเขาเหมือนกัน ไม่ทราบว่ารายละเอียดการพูดคุยสนทนามีเรื่องอะไรบ้าง
ขณะเดียวกันก็มีความกังวลเนื้อหาในหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศที่ชี้แจงต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) เมื่อแปลเป็นภาษาไทยมีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรงเกี่ยวกับคดียุบพรรคก้าวไกล นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกันในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องมีการชี้แจงไปยัง UN ส่วนของการแปลก็ต้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศมาชี้แจงดีกว่าว่า แปลไปว่าอะไร แต่จุดยืนของเรา เราไม่ก้าวก่ายระบบตุลาการอยู่แล้ว และเราก็จะไม่ยอมให้ใครมาก้าวก่ายระบบตุลาการของเรา และเชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศจะมีการแถลงชี้แจงในช่วงบ่ายวันนี้
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ ในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะมีการตัดสินคดีของพรรคก้าวไกล ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ในส่วนตนไม่ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงและมั่นใจว่า ทุกคนตั้งอยู่บนความสงบและยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และความจริงแล้วเราก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว