ข่าว

ยุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหาร 10 ปี

ยุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหาร 10 ปี

07 ส.ค. 2567

สั่ง ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ชี้ลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐอย่างมีนัยยะสำคัญ ใช้ประโยชน์ของสถาบันหวังให้ชนะการเลือกตั้ง

7 ส.ค.2567 เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ ยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้ถูกร้อง และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้ถูกร้องและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง

 

ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง โดยมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง

โดยคำร้องดังกล่าวเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 เป็นมติเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ว่าการที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคในขณะนั้นและพรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง

 

โดยศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 แล้ว เห็นว่า การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการมุ่งหมายให้สถาบันพระมหากษัติรย์อยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน ผู้ถูกร้องมีเจตจาบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เข้าลักษณะการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย

 

ผู้ถูกร้องและสมาชิกพรรค เสนอแก้ไข มาตรา 112 ลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ และหาเสียง ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐอย่างมีนัยยะสำคัญ ใช้ประโยชน์ของสถาบันพระมหากษัตริย์หวังให้ชนะการเลือกตั้ง ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกโจมตีติเตียน ทำร้ายจิตใจของชาวไทยที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

 

จึงเป็นเด็ดขาดและมีผลผูกพัน รัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรค4 การยุบพรรคการเมืองจึงต้องเคร่งครัดระมัดระวัง ให้ได้สัดส่วน

 

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตามที่กฎหมายบัญญัติให้กระทำจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องกระทำการตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 อันเป็นเหตุให้ยุบพรรค มาตรา 92 วรรค 2

 

มติเอกฉันท์ให้ ยุบพรรคก้าวไกล เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแห่ง ระหว่าง 25 มี.ค.2564 - 31ม.ค. 2567 กำหนด 10 ปี ห้ามจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่กำหนด 10 ปี