ข่าว

แฟนคลับก้าวไกล บุกชูป้าย ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

แฟนคลับพรรคก้าวไกล บุกชูป้ายที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขอใช้สิทธิเรียกร้อง ขณะที่ ศปปส. เข้าติดตามฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล

7 ส.ค.2567 เวลา 12.30 น. ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนการอ่านคำวินิจฉัย คดียุบพรรคก้าวไกล ในเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีแฟนคลับพรรคก้าวไกล ผู้หญิงจำนวน 2 คน เดินทางมาชูป้าย เขียนว่าเป็น "กำลังใจพรรคก้าวไกล" #คัดค้านยุบพรรคก้าวไกล บริเวณโถ่งด้านในหน้าศาลรัฐธรรมนูญ เป็นพื้นที่ควบคุมจนเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือให้ออกมาด้านนอกอาคาร

 

โดย นางสาวลักษ์สิการ ตั้งโชติธนาวิชญ์ กล่าวด้วยท่าทีดุดัน ว่า จุดประสงค์ที่มาในวันนี้ เพื่อแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่เราเลือกตั้งมา พรรคก้าวไกลผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามประชาธิปไตยประชาชนเลือกมาตั้ง 14 ล้านเสียง ถ้าประเทศไทยไม่มีหลักธรรมาภิบาล เราไม่รู้จะไปคุยกับลูกหลานหรือญาติของเราได้อย่างไรทำให้ตนต้องเดินทางมาวันนี้เราไม่เข้าใจว่า อะไรที่ทำให้เป็นการล้มล้างการปกครอง เรายังไม่แตกฉานกับคำพูดนี้

แฟนคลับพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า การแสดงออกในพื้นที่ควบคุมจะทำให้พรรคก้าวไกลเสียไปด้วยหรือไม่ นางสาวลักษ์สิการ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลกับเราไม่ได้มีอะไรกัน เราเป็นแค่ประชาชนอยากให้เคารพ 14 ล้านเสียง เรามาด้วยตัวเราเองในนามประชาชน ตนมาทุกรอบในการแสดงออกเรื่องนี้ ตนจ่ายภาษีปีละ 500,000 บาท แต่ไม่เคยได้อะไรกลับมาเลย แม้แต่บาทเดียว ดังนั้นมีสิทธิ 100% ในการเรียกร้อง

 

เมื่อถามว่าจะเป็นการกดดันศาลหรือไม่ นางสาวลักษ์สิการ ถามกลับว่า กดดันด้านไหน ต้องตีความคำว่ากดดันกับแสดงออกให้ชัดเจน เราจะแสดงออกตรงไหนก็ได้บนโลกใบนี้ จะไปบนดวงจันทร์ก็ได้ ดาวอังคารก็ได้ คำว่าแสดงออกกับกดดันมันคนละเรื่อง

กลุ่มมวลชน

เมื่อถามว่าจะไปที่พรรคก้าวไกลหรือไม่ นางสาวลักษ์สิการ กล่าวว่า ต้องดูบริบทก่อนเพราะไม่มีใครครอบงำเราได้

 

ขณะเดียวกันได้มีแฟนคลับพรรคก้าวไกลจำนวน 4 คน นำช่อดอกไม้เดินทางมาให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึง มีแอดมินเพจ "วันนี้ก้าวก่ายโกหกอะไร" เดินทางมาชูป้ายข้อความเขียน ว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมด้วย"

 

นอกจากนี้ เวลา 13.00 น. กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมกลุ่มมวลชน เดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญและฟังคำวินิจฉัย

 

โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้กลุ่ม ศปปส. เข้ามายัง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 (อาคารราชบุรีดิเรกฤทธ์) อาคาร A. โดยชี้แจงเหตุผลว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุม เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อย และแนะนำให้ไปติดตามรับฟังคำวินิจฉัยในพื้นที่ที่จัดเตรียมให้บริเวณลานเสาธง หน้าอาคารA

 

จากนั้นนายอานนท์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาติดตามฟังคำวินิจฉัยและสังเกตการณ์ว่า ทูต 18 ประเทศ ที่นายพิธาเคยไปพบ จะมาติดตามฟังในวันนี้ด้วยหรือไม่ หากมีคำวินิจฉัยออกมาและทางสถานทูตต่างๆ แสดงความคิดเห็นในทางลบ เราจะไปประท้วงตามสถานที่นั้นๆ ยืนยันว่าไม่ได้มาป่วน อยากมานั่งฟังและสังเกตการณ์เท่านั้น

 

ส่วนความคิดเห็นต่อการยุบพรรค นายอานนท์ กล่าวว่า ที่จริงเราไม่มีความคิดเห็นอะไร ยุบหรือไม่ยุบก็ได้ ไม่มีผลอะไรต่อกลุ่ม ศปปส. หากผลออกมา ตนก็เคารพคำวินิจฉัย

 

เมื่อถามว่า มีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคก้าวไกล นายอานนท์ กล่าวว่า การยุบพรรคมีมาตั้งแต่อดีต หากพรรคก้าวไกลถูกยุบในวันนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ขอไม่แสดงความคิดเห็นอะไร คุณทำผิดกฎหมายหรือไม่ ที่ คุณบอกว่าทำเป็นประชาธิปไตย ก็ต้องยอมรับคำวินิจฉัยของศาล

 

เมื่อถามความเห็นกรณีพรรคก้าวไกลหาเสียง แก้ไขมาตรา 112 นายอานนท์ ยืนยันว่า กลุ่ม ศปปส.ออกมาต่อต้านและตอบโต้ทุกครั้งที่มีพรรคการเมืองคิดอยากแก้ไขมาตรา 112 หรือ นิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดี มาตรา112  ซึ่งพวกเราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว

 

เมื่อถามกังวลหรือไม่ หากพรรคก้าวไกลถูกยุบจะทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจมากกว่าเดิมอีกครั้งหรือไม่ นายอานนท์ กล่าวว่า เราไม่มีความกังวลเรื่องการเมือง แต่เรากังวลว่าประชาชนในประเทศทุกวันนี้จะมีอยู่มีกินอย่างไร ขอให้ใครก็ได้ที่มาบริหารประเทศ ให้ไปคิดถึงปากท้องประชาชน ดีกว่าที่จะมาคิดแก้ไข ม. 112 หรือ นิรโทษกรรม

 

ทั้งนี้ยังฝากถึงแกนนำพรรคก้าวไกลว่า หากยังมีพฤติกรรมเดิมๆ นโยบายเก่าโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 เราก็หมดทางที่จะบอก ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ศปปส. ดำเนินการแจ้งความกับพวกที่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด