"พี่เต้" บุก สตช. ร้องตรวจสอบคดีอาญา "พิธา" และก้าวไกล
"เต้ มงคลกิตติ์" ยื่นหนังสือ ผบ.ตร. ตรวจสอบ"พิธา" และก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ ผิดจริง ขอให้ดำเนินคดีทางอาญา
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองกับกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ปี 64-67 จำนวน 11 คน เป็นเวลา 10 ปี ในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ม.92 (1) (2) ซึ่งอาจจะมีความผิดตาม ป.อาญา ม.113 (1) กรณี ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือไม่ โดยมีผลผูกพันธ์ทุกองค์กร
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ "เต้ มงคลกิตติ์" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อให้เร่งตรวจสอบดำเนินคดีกับ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล พร้อมพวก เข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญาปี 2499 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 113 วรรคหนึ่งหรือไม่
โดยระบุว่า มติศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 9:0 ว่า เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข รวมถึงเป็นปฏิบัติต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มีมติ 8:1 การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรงตามคำวินิจฉัยของศาลและคำตัดสินของศาลซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร
ซึ่งต้องให้ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพนักงานตรวจสอบว่า มีการกระทำความผิดจริง ก็จะเป็นกระบวนการของพนักงานสอบสวนที่จะสั่งฟ้องในกรณีดังกล่าวและส่งให้กับอัยการ หลังจากนั้นอัยการก็ส่งสู่ศาลชั้นต้นอุทธรณ์ฎีกา
ส่วนถ้าถามว่าตนหิวแสงหรือไม่นั้น ย้ำว่า ไม่ได้หิวแสง ตนเป็นคนทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น และมีการต่อต้านการหาเสียงในมาตรา 112 แต่เดิมอยู่แล้ว และไม่ได้เหยียบย่ำซ้ำเติม ตนเข้าใจว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำไป เพราะอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้น
เต้ มงคลกิตติ์ ยังฝากไปถึงพรรคก้าวไกลว่า อยากจะให้พรรคก้าวไกลที่จะไปสร้างพรรคใหม่ทำนโยบาย 300 ข้อเหมือนเดิม แต่ให้ยกเว้นเรื่องมาตรา 112 และการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องไปแตะต้อง ให้แตะต้องเรื่องการแก้ไขปัญหาประชาชน เหมือนพรรคการเมืองทั่วไปที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ตรงจุดนี้ก็จะทำให้กรรมการบริหารพรรครวมถึง สส.ของพรรคปลอดภัยมากขึ้น