"ปิยบุตร" ชี้ "ศิริกัญญา" เหมาะหัวหน้าพรรคคนใหม่ เชื่อไร้งูเห่าแปรพรรค
"ปิยบุตร" ชี้ "ไหม ศิริกัญญา" เหมาะหัวหน้าพรรคคนใหม่ เชื่อย้ายพรรคครบ 143 สส. ไร้งูเห่า ลั่นปี 2570 ตั้งเป้า 20 ล้านเสียง
8 ส.ค.2567 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับเครือเนชั่น ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล โดย สส.อดีตพรรคก้าวไกล 143 คน เตรียมตัวย้ายพรรคเข้าสังกัดพรรคใหม่ ว่า เมื่อเช้าเพิ่งเห็นข่าวว่า 143 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่เหลืออยู่ตัดสินใจสมัครสมาชิกพรรคใหม่พร้อมกัน รู้สึกดีใจมาก ตรงที่ความคาดหวังของประชาชนยังคงดำเนินอยู่ต่อไป บรรดานักการเมือง สส.ที่ตัดสินใจย้ายพรรคไปอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ทำลายความคาดหวังของประชาชน
เมื่อถามว่าคิดว่าไม่มีงูเห่าใช่ไหม นายปิยบุตร กล่าวว่า ถ้าตามข่าวบอกว่าสมัครพรรคใหม่ 143 คน คิดว่า คงไร้งูเห่า โดยพรุ่งนี้(9ส.ค.2567) จะมีการประชุมเพื่อเลือกผู้นำพรรค และวันที่ 10 ส.ค.2567 จะมีแคมเปญสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการ ถ้าตรงนี้เขาสามารถทำได้สำเร็จอีกรอบหนึ่ง หมายถึงคนที่เคยเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ยอดสุดท้ายอยู่ที่ 100,987 คน แห่มาสมัครพรรคใหม่พร้อมเพรียงกัน หรือเพิ่มจากเดิมอีก อัตราเพิ่มภายใน 1 เดือน เป็นหลักแสน ทั้งยอดเงินบริจาค สนับสนุนพรรคเหมือนเดิมทุกประการ ก็จะทำให้การยุบพรรค ไม่ได้สำเร็จโดยสมบูรณ์
เมื่อถามว่ามีกระแสซื้องูเห่า ค่าหัว 20-30 ล้านบาท นายปิยบุตร กล่าวว่า เรามีโอกาสนั่งพูดคุยกัน เขาเล่าว่า มีหลายพรรคมาเสนอ ตั้งแต่ระดับเอเยนซี่ส่งข้อความมาหา ว่าอยากขอคุยเรื่องการเมือง มีอะไรมาปรึกษาพูดคุยกัน หรือโทรศัพท์คุยกันตรงไปตรงมา และอีกเวทีที่ชักชวนกันคือ กรรมาธิการเวลาเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ก็มาชวนกัน แต่ถ้าเรายืนอยู่ฝั่งการเมืองแบบใหม่ เราต้องยันให้ได้ว่าทำแบบนี้ไม่สำเร็จ ซึ่งต่อไปการใช้เงิน การเชิญชวนย้ายพรรคจะลดน้อยลงตามลำดับ
เมื่อถามว่าไม่มีงูเห่า แต่มีหนอนบ่อนไส้ นายปิยบุตร กล่าวว่า สมัยยุบพรรคอนาคตใหม่ และเพื่อน สส.ไปก้าวไกล ก็กังวลว่าเป็นงูเห่าหรือไม่ ทำให้การประชุมการทำงานระแวดระวังกันไปหมด โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2567 วันสุกดิบก่อนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย สส.ปิดประชุมไปแล้ว เห็นว่าผมมีประสบการณ์ยุบพรรคมา ผมก็เลยบอกว่าอย่าระแวดระวังแบบเดิมเลย ถ้าใครไม่ประสงค์ไปต่อก็คุยกันตรงๆ เพื่อจะได้ทำงานกันต่อ เพราะเราบังคับใครไม่ได้ ต่อให้มีหนอนก็ไม่ได้ทำลายพรรคใหม่ที่จะเกิดขึ้น
ระบบการเมืองไทยเป็นระบบช่วงเปลี่ยนผ่าน เราพยายามเอาความคิด การจัดองค์กรแบบใหม่ๆเข้ามา ภายในสิ่งแวดล้อมแบบเดิมอยู่บ้าง
มารอบนี้ถ้าสามารถย้ายไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ก็ทำให้สังคมเห็นแล้วว่า ท้ายที่สุดการทำงานการเมืองตรงไปตรงมา ไม่มีเครือข่าวระบบอุปถัมภ์ ไม่ได้อยู่กันด้วยผลประโยชน์ แจกเงินเดือนรายเดือน เอาเข้าจริงก็สามารถเดินหน้าต่อทางการเมืองไทยได้ เมื่อใดที่ทำสำเร็จ ตลาดการเมืองก็จะเปลี่ยนไป เมื่อคนรู้ว่าการใช้เงินอย่างเดียวไม่สามารถทำให้สำเร็จ อัตราการใช้เงินจะค่อยๆลดน้อยถอยลงไป อันนี้เป็นความสำคัญมากกว่าเรื่องของพรรคใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึง จุดยืนในการแก้กฎหมาย มาตรา 112 นายปิยบุตร กล่าวว่า ส่วนตัวยังเห็นว่า มาตรา 112 มีปัญหา มีข้อขัดข้องในการนำไปใช้ ต้องถูกแก้ไขปรับปรุงได้ โดยศาลรัฐธรรมนูญ ตีกรอบไว้ในคำวินิจฉัยที่ 3/2567 ตีกรอบเข้มข้น ว่า หากแก้มาตรา 112 ให้แก้แบบใด ห้ามแก้แบบใด ไม่ได้พูดว่าห้ามแก้เลย ดังนั้นยังแก้ได้อยู่อันนี้ทางกฎหมาย
แต่ในทางการเมืองจะทำหรือไม่อยู่ที่พรรคประเมินว่าห้วงเวลาไหนเหมาะสมหรือไม่อย่างไร แต่ถ้ายังยืนยันว่าเป็นปัญหา ไม่ต้องการให้แอบอ้างใช้มาตรา 112 เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ถ้าเห็นตรงกันแบบนี้ ก็ยังแก้ไขได้ เพียงแต่ทำยังไงให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567
สำหรับเสียงประชาชนพรรคใหม่ เราต้องมุ่งหน้าต่อไปในเมื่อ 14.4 ล้านเสียงไม่พอ เราก็ต้องมุ่งหน้าให้มากกว่านั้น ในปี 2570 เราต้องเอาให้ถึง 20 ล้านเสียง เลือกผู้บริหารประเทศ ต้องมาจากประชาชนเลือก พรรคสามารถทำสำเร็จเกินกึ่งหนึ่งของสภา
เมื่อถามถึงแคนดิเดตหัวหน้าพรรคใหม่ มีชื่อ ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล เอามาต่อสู้ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายปิยบุตร กล่าวว่า ผมคุ้นเคยกับศิริกัญญา ไม่ได้มองว่าเอามาแข่งกับอุ๊งอิ๊ง ไม่ได้มองว่าเอาผู้หญิงมาแข่งกับผู้หญิง แต่น่าจะมาจากว่า ไหม ศิริกัญญา มีบทบาทสำคัญตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ อยู่เบื้องหลัง จนมาเป็นสส.ผู้ควบคุมเนื้อหาอภิปราย สส. หัวหน้าทีมนโยบาย มีบทบาทการอภิปรายทีมเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นคนก็มาคิดถึง ศิริกัญญา ก็มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจมาแข่งกับคุณอุ๊งอิ๊ง
โดยหัวหน้าพรรคตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่มาถึงพรรคก้าวไกล มีหลากหลายบุคลิก รุ่นผม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ปิยบุตร แรงเกินไป ต่อมา พิธา ลิ้มเจริญรัตน กับ ชัยธวัช ตุลาธน ก็ซอฟท์ลงมาหน่อย แต่สิ่งหนึ่งที่ยึดมั่นตรงกันคือแนวคิด และนอกจาก ศิริกัญญา มีหลายคน อย่าง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือแม้กระทั่งรุ่นก้าวไกลก็มีอีกหลายคนที่สามารถเป็นผู้นำพรรค ถ้าพี่น้องพรรคใหม่ เป็นคนตัดสินใจ ผมเอาใจช่วยไม่ว่าใครเป็นก็สนับสนุน