ข่าว

เปิดใจ “เศรษฐา” หลังศาลรธน.ให้พ้นจากตำแหน่ง ลั่นเสียใจ ยืนยันว่าซื่อสัตย์

เปิดใจ “เศรษฐา” หลังศาลรธน.ให้พ้นจากตำแหน่ง ลั่นเสียใจ ยืนยันว่าซื่อสัตย์

14 ส.ค. 2567

เปิดใจ “เศรษฐา” หลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามคำตัดสินของศาลรธน. ยอมรับเสียใจ เพราะทำงานด้วยความซื่อสัตย์และมีจริยธรรมมาตลอด วอนอย่ามองว่าถูกวางยา

14ส.ค.2567 เวลา 16.00 น. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยตัดสิน ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง โดยให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อม ครม.ทั้งคณะ

 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังทราบคำตัดสินว่า ขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสทุกฝ่ายได้ชี้แจงประเด็นต่างๆและหยิบยกกรณีต่างๆมาพูดคุยเป็นวงกว้างอย่างเป็นธรรม

โดยเคารพคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ และยืนยันตลอดรระยะเวลาเกือบ 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้พยายามทำทุกอย่างถูกต้องและตั้งใจจริงในการทำงาน ยึดมั่นอุดมการณ์ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย และไม่ได้ทำตัวเป็นที่ขัดแย้งกับทุกคน

 

ยอมรับในคำตัดสินแต่ เสียใจที่หลังจากนี้จะถูกบอกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีจริยธรรม เพราะตนเองไม่ใช่บุคคลเช่นนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมามีจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่

เศรษฐา ทวีสิน หลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

โดยเชื่อว่าในบ้านเมืองยังมีคนเก่งอีกหลายคนที่จะสามารถมาสานต่องานได้ เชื่อว่าผู้ที่รักษาการจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่วนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ถือเป็นหน้าที่ของรัฐสภาตามกฏหมาย และไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่านายกฯคนต่อไป ควรจะมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ไม่อยากกดดันใครทั้งสิ้น ถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันมากกว่า เชื่อว่าผู้ที่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่มีความสามารถและมีจุดแข็งทุกคน

 

ส่วนนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศออกไปก่อนหน้านี้ ไม่สามารถตอบได้ว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะโครงการดิจิทัล วอลเล็ต และซอฟท์พาวเวอร์ เพราะเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป ที่จะพิจารณาโดยหลักการคือ ขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อย่างไรก็ตาม ตนเองพร้อมที่จะช่วยเหลืองานบ้านเมืองไม่ว่าจะในบทบาทใดก็ตาม โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐมนตรี หรือ สส.

 

ส่วนเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนราคาแพงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่อยากมองในแง่ลบ แม้ศาลตัดสินมาไม่ตรงกับที่คาดหวังไว้ แต่ไม่อยากมองเรื่องการวางยา ขอให้เป็นกลไกของสภาที่จะดำเนินการต่อไปในการหานายกฯคนต่อไป