นายกฯอุ๊งอิ๊ง ไม่เคลียร์ ดิจิทัลวอลเล็ต ได้ไปต่อ โต้ ทักษิณ สั่ง ล้มนโยบาย | คมชัดลึก

18 ส.ค. 2567 ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงคำกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอีกครั้ง  พรรคร่วมรัฐบาล และประชาชนทุกคน ขอบคุณที่ได้มอบความเชื่อมั่น และความไว้วางใจ ให้ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 

 

นางสาวแพทองธาร เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวถามคำถาม โดยคำถามแรกผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เคยใช้หาเสียงเป็นนโยบายเรือธงของพรรคหรือไม่ และกรณีที่มีกระแสข่าว ว่า ทักษิณ แจ้งให้ล้มนโยบายนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น

 

น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ข้อแรกคุณทักษิณไม่ได้แจ้งสั่งให้ล้มนโยบายนี้ ซึ่งต้องมีการปรึกษากับพรรคร่วมด้วยต้องขอให้แยกบทบาท และเข้าใจดีท่านทักษิณ ไม่สามารถลบภาพทางการเมืองออกได้ เพราะท่านก็ยังเป็นคนที่หลายๆ คนในที่นี้ยังคงเคารพนับถือ เพราะฉะนั้นอาจจะขอคำปรึกษาตามประสบการณ์ที่ท่านมี

 

ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ขอเริ่มจากความตั้งใจเดิมก่อนความตั้งใจการทำ ดิจิทัลวอลเล็ต คือการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ แน่นอนในปีที่แล้วที่เราหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ ดิจิทัลวอลเล็ต นั้นเป็นการที่เราศึกษาและสังเคราะห์นโยบายมาอย่างดีแล้ว 

 

ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ผ่านมากมาเศรษฐกิจประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป เราจะต้องศึกษา และรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม และจะต้องอยู่ในระเบียบ พ.ร.บ ของวินัยการเงินการคลังด้วยคือสิ่งที่ต้องทำต่อไป แต่ว่าในเนื้อหารายละเอียดจะต้องมีความชัดเจน และได้ฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นความตั้งใจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่อช่วงเช้าคุณทักษิณ มีการเข้ามาให้กำลังใจในวันนี้ด้วย หลังจากนี้จะมีการเข้ามาช่วยทางการเมือง หรือไม่  และจะมีเรื่องของครอบงำทางการเมืองหรือไม่นั้น 

 

นางสาวแพทองธาร ระบุว่า วันนี้ขอตอบอีกครั้งมันไม่ใช่การครอบงำแน่นอน เพราะว่าตัวดิฉันเอง และทุกคนในครอบครัวมีความคิดเป็นของตัวเอง เราปรึกษากัน และให้เกียรติกันทางความคิด แต่สุดท้ายเมื่อใครอยู่บทบาทไหนก็ต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ความคิดเห็นของครอบครัว หรือคนที่เราเคารพนับถือย่อมมีส่วนสำคัญ และก็ในส่วนของตำแหน่งยังไม่ได้คิดไว้

 

จริงๆ แล้วตัวของคุณทักษิณเองไม่ได้อยากมีตำแหน่งอะไร เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ได้คิดเอาไว้ แต่กำลังคิดว่ากฎหมายหรืออะไรก็ตามเราก็ต้องดูความ sensitive ตรงนี้ด้วยว่าเราจะสามารถยังใช้วิสัยทัศน์ของท่านได้โดยที่จะไม่โดนอะไรก็น่าจะดีเหมือนกัน

 

เพราะจริงๆ วิสัยครับของท่านก็เป็นส่วนที่พัฒนาประเทศมาแล้ว 10 กว่าปีทำให้คนไทยลืมตาอ้าปากได้ เพราะฉะนั้นคงห้ามไม่ได้ที่ฉันต้องขอคำแนะนำจากท่านด้วย

 

ส่วนกรณีที่ในครม.ที่จะไม่มีนามสกุล วงษ์สุวรรณ นั้น เรื่องนี้ยังเร็วไปแล้วก็ยังไม่ทราบด้วยว่าจะมีนามสกุลไหนไม่มีนามสกุลไหน โดยยืนยันด้วยความสัตย์จริงไม่เคยได้ยินประโยคนี้จากคุณทักษิณ

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่นางสาวแพทองธาร มายืนตรงนี้นั้นหลายคนปรามาสว่ามาจากพ่อและความสามารถยังไม่เห็นตรงนี้ และจะซ้ำรอยเดิม ของคุณพ่อกับคุณอา จะสู้กับกระแสดังกล่าวอย่างไร 

 

นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ปัญหาประเทศต้องถูกแก้ไขก่อน แล้วดิฉันเองที่เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ก็จะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และพร้อมเข้าหาทุกภาคส่วนพร้อมเข้าหาทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วม ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกฯ หลายๆ ท่านทุกคนที่มีความสามารถ

 

ดิฉันเชื่อว่าไม่มีงานใหญ่ขนาดนี้ที่ไหนที่คนหนึ่งคนจะทำสำเร็จด้วยตัวเองได้ แต่ดิฉันมีความตั้งใจมีความเคารพมีความเชื่อในความสามารถของทุกๆ คน เพราะฉะนั้นคงจะไม่สามารถสร้างประสบการณ์ได้โดยดีดนิ้วทีเดียว และกลายเป็นผู้มีประสบการณ์ เพราะฉะนั้นก็คงต้องขอคำแนะนำจากผู้ประสบการณ์ทั้งหมด เพื่อทำให้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความหมายและผลักดันนโยบายเพื่อประเทศชาติให้ได้มากที่สุด

 

และที่ถามว่า กลัวโดนอย่างคุณพ่อหรือคุณอาไหม ไม่มีใครอยากโดนเหมือนคุณพ่อกับคุณอา วันนี้คุณพ่อกับคุณอาก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นดิฉันมีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ ที่ฉันได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ได้ถูกต้องที่สุด เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมองไปที่เป้าหมาย ถ้ามัวมานั่งกังวลทุกอย่าง เราก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเราได้ และจะทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีคดี

 

กรณีการอภัยโทษ ของคุณทักษิณที่มันตรงล็อคกับวันนี้พอดี นั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่า เรื่องคดีดิฉันถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่คุณพ่อได้รับอภัยโทษ ไม่ว่าจะวันไหนก็ตาม เมื่อได้รับอภัยโทษนั่นคือสิ่งที่ดิฉัน และครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีใช้คติอะไรในการดำเนินงานบนเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร รับว่า คติง่ายๆสั้นๆ "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"