"ทักษิณ" ไม่ผูกใจเจ็บ "บิ๊กป้อม" แต่ย้อนถาม เหตุใดไม่มาร่วมโหวต นายกฯ | คมชัดลึก

20 ส.ค. 2567 ที่ อาคารชินวัตร 3 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารชินวัตร 3 ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โทรศัพท์เคลียร์ ว่า "ไม่เคยได้ยินเสียงพล.อ.ประวิตร เลย เคยได้ยินแต่เสียงที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์ของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คงเป็นคนรอบข้างที่เล่ากันมา"

นายทักษิณ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล ยังไม่เคยพูดคุยกัน เพราะเป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรคการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ใครทำอะไรก็ควรจะต้องรู้ตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลช้าไปหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่าไม่เป็นไร ทางรัฐบาลมีคณะกรรมการอยู่ในการแต่งตั้ง และในส่วนของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็มีการตั้งคณะกรรมการ ช่วยกันสกรีน ให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด

เมื่อถามว่า ตอนนี้ทางพรรคพลังประชารัฐ แตกเป็นสองฝ่ายระหว่าง พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาฯพรรค มองว่าฝ่ายใดเหมาะสมเข้าร่วมรัฐบาลมากกว่ากัน นายทักษิณ ระบุว่า ฝ่ายที่ทุ่มเททำงานให้กับรัฐบาลมาตลอด 

เมื่อถามว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะไม่มีตระกูล "วงษ์สุวรรณ" ในรัฐบาลชุดนี้จริงหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อันนี้ต้องแล้วแต่คณะกรรมการ ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การจะเข้ามาร่วมรัฐบาลควรจะเข้ามาทั้งพรรคหรือไม่ นายทักษิณ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า อยากจะร้องเพลงของ อัสนี-วสันต์ เพลงเธอปันใจ ซึ่งมีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า "ถ้าจะมา ไม่มาทั้งใจ ก็กลับไปเสียดีกว่า"

เมื่อถามว่ายังผูกใจเจ็บ พล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า "ไม่ๆๆ ผมโดนเยอะที่สุดแล้ว และก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร มันเป็นเรื่องอดีต ผมอยู่แค่กับวันนี้ และพรุ่งนี้"

เมื่อถามว่า คนที่จะเข้าร่วมรัฐบาล หรือคนที่ช่วยงานรัฐบาลมาตลอด แต่ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้ร่วมโหวตนายกฯ แพทองธาร ควรได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายทักษิณ ย้อนถามว่า ก็นั่นน่ะสิ ต้องไปถามท่านว่า ทำไมไม่โหวต

ส่วนกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาล หากพรรคพลังประชารัฐ มาไม่ครบทั้งพรรคนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติที่จะต้องมีเสียงให้มีเสถียรภาพ เพราะปัญหาที่ต้องเปลี่ยนในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ต้องอาศัยเสียงจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องอาศัยการแก้กฎหมาย อาศัยการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและมั่นคงในประเทศไทย ฉะนั้นยืนยันว่า ไม่ปิดทางดึงประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่า เป็นไปได้อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงปัญหาเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี นายทักษิณ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา ซึ่งล่าสุดพบว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะออกหนังสือรับรองเป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านก็คือผ่าน ไม่ผ่านก็คือไม่ผ่าน ไม่เช่นนั้นนายกรัฐมนตรีก็ออก แบบครั้งที่แล้ว หากสุ่มเสี่ยงก็ไม่ควร ทุกคนจะต้องเสียสละ เพื่อให้การบริหารงานต่อเนื่อง