ข่าว

เปิดประวัติ "อุดม สิทธิวิรัชธรรม" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

เปิดประวัติ "อุดม สิทธิวิรัชธรรม" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าของวลี จริงๆ ต้องขอบคุณผมนะ ยุบพรรคก้าวไกล 2 วัน ได้เงิน 20-30 ล้าน "ยักไหล่แล้วไปต่อ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิป นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวระหว่างบรรยายสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อ "ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560" ที่ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567

เปิดประวัติ \"อุดม สิทธิวิรัชธรรม\" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

โดย นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม พูดติดตลกว่า พรรคประชาชนต้องขอบคุณเขาที่ทำให้พรรคได้เงินบริจาคเพิ่ม "เหมือนอย่างวันนี้ เขายังมีปัญหาอยู่ พรรคคุณไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ ไปรับเงิน คุณออกในนามพรรคประชาชนซึ่งคุณยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ทำได้เปล่า? กำลังมีปัญหาอยู่ เขาบอก ผมใช้บัญชีเดิม เขาก็ต้องตรวจสอบ คุณใช้บัญชีเดิมจริงหรือเปล่า? หรือคุณเปิดบัญชีใหม่"

"จริง ๆ ต้องขอบคุณผมนะ มีการยุบพรรคเขา เห็นไหมครับ เขาได้เงินตั้งกี่ล้านน่ะ ภายในสองวัน ถ้าไม่ยุบเนี่ย เขาร้องไห้ฟรีเลยนะ ก่อนหน้านั้นน่ะ เงินไม่มีนะ ต้องขอบคุณผมนะทำให้เขามีเงินเข้าไปตั้ง 20, 30 ล้าน ใช่มะ สมาชิกเก่าเข้าไปจดทะเบียนเป็นสมาชิกตามไปด้วยเห็นไหม ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย"

"ยุบปั๊ป เอ้าไปเปิดพรรคใหม่ได้ เอ้า ไม่ข้องใจแล้วหรือ? เมื่อวานร้องไห้อยู่ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนู้นอย่างนี้ โอ้ สองวันเลิก จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ "ยักไหล่แล้วไปต่อ" เงิน 20 ล้าน​ (หัวเราะ)"

 

 

 

ฟังคลิปบรรยายฉบับเต็ม (คลิก)

ประวัติ "อุดม สิทธิวิรัชธรรม" คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 


เกิดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2497

ประวัติการศึกษา

  • นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง (พ.ศ.2517)
  • เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 28 สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา (พ.ศ. 2518)
  • นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พ.ศ.2525)

 

ตำแหน่งหน้าที่สำคัญในอดีต

 

  • นายทหารพระธรรมนูญ กองทัพเรือ (25 มีนาคม 2519 – 30 กันยายน 2524)
  • ผู้ช่วยผู้พิพากษา ผู้พิพากษาประจำกระทรวงช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลจังหวัดทุ่งสง และผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดแม่สอด ศาลจังหวัดพิษณุโลก และศาลจังหวัดนครสวรรค์ (1 ตุลาคม 2524 – 31 ตุลาคม 2534)
  • ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกระทรวง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกระทรวง ช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครสวรรค์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหลังสวน ศาลจังหวัดอุทัยธานี และศาลจังหวัดกำแพงเพชร (1 พฤศจิกายน 2534 – 10 เมษายน 2540 )
  • ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา (11 เมษายน 2540 - 2 มิถุนายน 2542)
  • ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 6 (3 มิถุนายน 2542 - 1 ตุลาคม 2549)
  • ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ( 2 ตุลาคม 2549 - 30 กันยายน 2540)
  • ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลอุทธรณ์ภาค ๕ และประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลอุทธรณ์ภาค 3 ( 1 ตุลาคม 2550 - 30 กันยายน 2552)
  • รองประธานศาลอุทธรณ์ (1 ตุลาคม 2552 - 30 กันยายน 2554)
  • อธิบดีผู้พิพากษาภาค 1 และ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ (1 ตุลาคม 2554 - 30 กันยายน2556)
  • ผู้พิพากษาศาลฎีกา (1 ตุลาคม 2556 - 30 กันยายน 2557)
  • ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 (1 ตุลาคม 2557 - 30 กันยายน 2559)
  • ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา (1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2561)
  • ประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกา (1 ตุลาคม 2561- 25 กุมภาพันธ์ 2563)

 

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับ

  • มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)