ข่าว

เรืองไกร ร้อง สอบจริยธรรม "นายกฯ" ชวน รมต. ทำท่ามินิฮาร์ท ขณะใส่ชุดขาว

เรืองไกร ร้อง สอบจริยธรรม "นายกฯ" ชวน รมต. ทำท่ามินิฮาร์ท ขณะใส่ชุดขาว

10 ก.ย. 2567

เรืองไกร ยื่น ป.ป.ช. สอบ "แพทองธาร" ชักชวน รัฐมนตรีทำท่ามินิฮาร์ท ขณะใส่ชุดขาวถ่ายภาพ ครม. หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ส่งผลต่อภาพลักษณ์ กระทบความเชื่อถือ

หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีช่วงหนึ่งได้ชวนรัฐมนตรีทำท่ามินิฮาร์ท ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในชุดขาว 

 

10 ก.ย. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง หรือไม่ และต้องส่งศาลฎีกาพิพากษาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่ และจะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตาม มาตรา 235 วรรคสี่ หรือไม่  

นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2567 ปรากฏข่าวเกี่ยวกับกรณี น.ส.แพทองธาร ใส่ชุดปกติขาวชูนิ้วทำมินิฮาร์ททั้งสองมือ ขณะถ่ายรูปหมู่ค ครม. ที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งชักชวนรัฐมนตรีในคณะทำตามด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวาง กรณีดังกล่าว ทำให้นึกถึงที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบ สส.มงคลกิตติ์ สุสินธารานนท์ เรื่องการไปดูภาพยนตร์ “4 KINGS อาชีวะ ยุค 90” และเรื่องการไปชูนิ้วมือสามนิ้ว ซึ่ง ป.ป.ช. มีมติว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 17
 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร


นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า จากกรณี สส.ดูฟุตบอลจากเว็บไซต์เถื่อน และ สส.ไปดูภาพยนตร์ และไปชูนิ้วมือสามนิ้ว เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของ น.ส.แพทองธาร ชูนิ้วทำมินิฮาร์ททั้งสองมือ จึงควรมีการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานแบบเดียวกัน ว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 หรือไม่ ซึ่งกำหนดไว้ดังนี้   

“ข้อ 17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง” 
           
“ข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกําลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคำนึงถึง ผลประโยชน์ของชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม” 

 

นายเรืองไกร กล่าวว่า การฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 17 ข้อ 21 เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขแดงที่ คมจ. 1/2567 ไว้ในหน้า 42 (บางส่วน) ดังนี้ 
             
“... นอกจากนี้การกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามดังกล่าวยังเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฐานกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ... และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ ... ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ... ข้อ 17 และข้อ 21 อีกด้วย ...” 

 

ถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรี

 

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีของ น.ส.แพทองธาร ที่เป็นตัวการทำท่ามินิฮาร์ท และชวน ครม. ทำตามในระหว่างการถ่ายภาพร่วมกัน แต่หลังจากมีทีมงานทัก นายกรัฐมนตรียิ้มรับว่า “ลืมไปว่าใส่ชุดขาว” ซึ่ง ครม.  ก็มีการยกมือทำท่ามินิฮาร์ท ก่อนเอามือลงในเวลารวดเร็ว โดยมีรัฐมนตรีหลายคนทำตาม เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นต้น และมีรัฐมนตรีอีกหลายคนไม่ได้ทำตาม เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นต้น รัฐมนตรีแต่ละคนจึงเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์และสถานที่ดังกล่าว 

 

เมื่อค้นหาคลิปจาก tiktok จะพบพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ชัดเจนทั้งภาพและเสียงจำนวนมาก ซึ่งสาธารณชนและประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้โดยง่าย ต่างแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง

 

ดังนั้น การที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งร่วมถ่ายรูปที่ทำเนียบรัฐบาลและเป็นผู้เชิญชวนให้ ครม. ร่วมทำท่ามินิฮาร์ทขณะใส่เครื่องแบบราชการชุดปกติขาวนั้น จึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช. ควรตรวจสอบก่อนว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ส่งผลภาพลักษณ์ กระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือความศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง หรือไม่

นายเรืองไกรร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบ