ข่าว

"สมรสเท่าเทียม" ประกาศใช้แล้ว นายกฯอิ๊งค์ ร่วมแสดงความยินดี

25 ก.ย. 2567

เพื่อไทย โพสต์ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ประกาศใช้แล้ว มีผลบังคับใช้อีก 120 วัน นายกฯอิ๊งค์ - เศรษฐา ทวิตร่วมแสดงความยินดี

พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อมูลล่าสุด มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ "พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม" โดยมีเนื้อหา ดังต่อไปนี้

  • มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า 'พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567'
  • มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยสำคัญในการพัฒนาสังคมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่การก่อตั้งครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย โดยมีการอุปการะเลี้ยงดูและมีความสัมพ์ในด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างไปจากคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง

 

สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อรองรับให้บุคคลเพศหลากหลายสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะมีเพศใด เว้นแต่จะเป็นกรณีที่มีกฎหมายอื่นกำหนดเรื่องครอบครัวหรือมรดกไว้เป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

 

"พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม" ฉบับนี้เดินทางมาไกลกว่า 23 ปี ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแต่สังคมในขณะนั้นยังไม่มีความพร้อมจึงทำให้เรื่องนี้ระงับไป  มาถึงเมื่อมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีการผลักดันอีกครั้งในชื่อ พ.ร.บ.ชีวิตคู่ ก็ยังไม่สำเร็จและเกิดรัฐประหาร การผลักดันร่างกฎหมายนี้จึงยุติลงไป จนกระทั่งมาในสมัยสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้วได้มีการเสนอ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แต่ไม่สามารถพิจารณาได้จนครบทั้ง 3 วาระจึงทำให้ตกไปอีกครั้ง

 

 

สมรสเท่าเทียม

 

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หยิบยก "พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม" เข้าสภาฯ อีกครั้ง จนเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นด้วย 400 เสียง ไม่เห็นด้วย 10 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง

 

จากนั้น 18 มิ.ย. 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่...) พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม วาระที่ 2-3 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 130 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง และงดออกเสียง 18 เสียง

 

ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีกฎหมายแต่งงานของบุคคลเพศเดียวกันอย่างสมบูรณ์

 

 

นายกรัฐมนตรี

 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความแสดงความยินดี โดยมีข้อความว่า 

 

"แด่ทุกความรัก… 
ยินดีกับความรักของทุกคนค่ะ 
#LoveWins 

ขอบคุณการผลักดันจากทุกภาคส่วน เป็นการต่อสู้ร่วมกันของทุกคนค่ะ #สมรสเท่าเทียม"

 

พร้อมกับรีทวีตข้อความของ นายเศรษฐา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีข้อความว่า "อีกก้าวสำคัญของสังคมไทย กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านแล้วครับ  ความเสมอภาคและเท่าเทียมเป็นรูปธรรมในสังคมไทย ความหลากหลายทางเพศสภาพจะได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่เสียทีครับ ยินดีด้วยครับ"

 

 

เศรษฐา