เกาะกระแสตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 15 เปิดตัวละครใหม่ “พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข”
เกาะกระแสแต่งตั้ง แม่ทัพสีกากีคนที่ 15 เปิดตัวละครใหม่ “พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข” ที่อาจทำให้จาก 3 แคนดิเดต กลายเป็น 4 แคนดิเดตเข้าชิง ผบ.ตร.
ใกล้งวดเข้ามาทุกที ว่า ใครจะได้เป็นพิทักษ์ 1 ผบ.ตร.คนที่ 15 ต่อจาก บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14 ที่จะครบเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2567
แม้ว่าในปีนี้ การแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ จะต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมอีกนิดหน่อย จากเดิมที่ จะต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายใน วันที่ 30 ก.ย. 2567
แต่เนื่องจากในวาระการแต่งตั้งเดือน ต.ค.2567 ต้องรอให้ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ พ.ศ.2567 มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 5 เม.ย.2567 เป็นเวลา 180 วัน
จึงทำให้ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ พ.ศ.2567 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ต.ค. 2567 จากนั้นกระบวนการในการแต่งตั้งตำรวจระดับต่างๆ จึงจะเริ่มต้นดำเนินการ โดยทุกระดับในการแต่งตั้งโยกย้ายต้องมีการประกาศลำดับอาวุโสให้รับทราบทั่วกัน
ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ปีนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งเป็นหัวโต๊ะการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งแรก เพื่อนำรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมจะเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป เข้าขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ก.ตร.
เมื่อ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ พ.ศ.2567 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ต.ค. 2567 ทำให้คาดการณ์ว่า จะมีการนัดประชุมก.ตร. เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนต่อไป ในช่วงต้นเดือน ต.ค.2567 และคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค.2567
โดย แคนดิเดตที่มีสิทธิได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จะต้องเป็นตำรวจยศ พล.ต.อ. ซึ่งในปีนี้มี 3 คน ประกอบด้วย
- พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ ปี 2569 อาวุโสลำดับ 1
- พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณอายุราชการ ปี 2568 อาวุโสลำดับ 2
- พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการปี 2569 อาวุโสลำดับ 3
อย่างไรก็ดี มีกระแสสะพัดในแวดวงสีกากี ว่า อาจมีอีก 1 คน เข้ามาสอดแทรก ที่แวดวงสีกากี พูดกันหนาหูว่า คือ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน รองผบ.ตร. รับภารกิจต่อจาก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. ที่ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
แต่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์การแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. เพราะมียศ พล.ต.ท. เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาเป็น ผบ.ตร.จะต้องมียศ พล.ต.อ.
จึงมีกระแสข่าวสะพัดว่า อาจมีการดันแต่งตั้ง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ขึ้นเป็น รองผบ.ตร. ก่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ซึ่งจะกลายเป็นเคสแรกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เหตุผลที่ทำให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ถูกโฟกัส ว่าอาจเป็นบุคคลที่เข้ามาสอดแทรกเป็นอีก 1 แคนดิเดต ผบ.ตร. เนื่องจากถูกมองว่า มีสายสัมพันธ์กับตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะการได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าทีมดูแลแผนอารักขาความปลอดภัยและแผนจราจรช่วงรับตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งบินกลับไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 ตามคำสั่ง บิ๊กเด่น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในขณะนั้น
รวมทั้งในวันที่ ทักษิณ ชินวัตร กลับถึงประเทศไทย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข เป็นบุคคลที่ได้ขึ้นรถไปกับ ทักษิณ ในฐานะหัวหน้าชุด รวมถึงถูกมองว่าเป็นชาวเหนือด้วยกัน เนื่องจาก พล.ต.ท.ประจวบ เป็นคน จ.แพร่ ส่วน ทักษิณ เป็นคนเชียงใหม่ ทำให้ทีมงานมองว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมในการประสานงานและพูดคุยกับ ทักษิณ มากที่สุด
อย่างไรก็ดี บางคนมองว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข เพียงแค่มารับภารกิจในหน้างานแทน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เท่านั้น ไม่น่าจะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ อดีตนายกทักษิณ เป็นพิเศษ แต่จากวันนั้นจะมีการสานสัมพันธ์ให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้
ขณะที่นักวิเคราะห์ในแวดวงสีกากีมองว่า การจะผลักดัน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ให้ติดยศ พล.ต.อ. เพื่อมาขึ้นแท่น ผบ.ตร. ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากจะถูกมองในเรื่องความไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปตามสเต็บการแต่งตั้ง
เพราะถ้าแต่งตั้ง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ให้ติดยศ พล.ต.อ. ในตำแหน่ง รองผบ.ตร. จากนั้นอีกไม่กี่วัน นายกฯแพทองธาร เสนอชื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ก.ตร. เพื่อตั้งขึ้นเป็น ผบ.ตร. ทันที จะถูกตั้งคำถามในเรื่องความสง่างาม ความไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องอาวุโส
เนื่องจาก 3 แคนดิเดตที่จ่อรอขึ้นแท่น ผบ.ตร. ล้วนมีอาวุโสสูงกว่า รวมถึงมีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะงานด้านการปราบปรามทั้งสิ้น
และอาจมีปมเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับความโปร่งใสตามมาในภายหลัง
รวมทั้งถ้ามีความพยายามดัน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข จริง จะทำให้ไทม์ไลน์ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ขยับออกไปอีก ที่จากเดิมคาดว่าเป็นภายในต้นเดือน ต.ค. 2567 และคาดว่ากระบวนการทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.2567 นั้น อาจจะไม่ใช่กำหนดเดิม
การที่หน่วยสำคัญอย่างที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องขาดผู้คุมทัพตัวจริงนานๆ แน่นอนว่าต้องถูกตั้งคำถามและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง รวมถึงขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา
ฉะนั้น การตัดสินใจวางตัว ผบ.ตร.คนที่ 15 ของ นายกฯแพทองธาร จึงถูกคาดหวังจากทั้งเหล่าสีกากี และถูกจับตาจากสังคม !!