ข่าว

นายกฯ แพทองธาร ลุยโคลน ปลอบใจชาวแม่สาย สั่งภายใน 45 วัน ต้องกลับสู่สภาพเดิม

นายกฯ แพทองธาร ลุยโคลน ปลอบใจชาวแม่สาย สั่งภายใน 45 วัน ต้องกลับสู่สภาพเดิม

28 ก.ย. 2567

นายกรัฐมนตรี "แพทองธาร" ลุยโคลน กอดชาวแม่สาย จ.เชียงราย ให้กำลังใจ พร้อมสั่งการ ภายใน 45 วัน ทุกอย่างต้องกลับสู่สภาพเดิม

วันนี้ (28 ก.ย. 2567) เวลา 09.30 น. ณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ขึ้นรถบรรทุกทหาร (FTS) เข้าพื้นที่สำรวจและประเมินสถานการณ์พร้อมติดตามการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลังเหตุการณ์อุทกภัย ณ บ้านเกาะทราย และบ้านผาจม ต.แม่สาย 

 

 

โดย นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังรายงานสถานการณ์ที่ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จากเจ้าหน้าที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม พื้นที่ส่วนกลาง ถนนใหญ่ 24 สายจะเสร็จหมด แต่อาจจะต้องกลับมาเคลียร์อีกครั้งหนึ่ง ส่วนพื้นที่อำเภอแม่สายทั้งหมด ขอเวลาอีก 45 วัน จะกลับสู่สภาพปกติ รัฐบาลช่วยเยียวยาความเสียหาย ซึ่งอาจจะมีบางบ้านที่หายไปทั้งหลัง ถือว่าเสียหายหนักมาก โดยหากดูตามกฎหมายจะได้รับการชดเชยมากพอสมควร ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือในอำเภอเมือง โดยจากนี้จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเครื่องมือ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือว่าเพียงพอหรือไม่ 

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นรถบรรทุกทหาร (GMC) เพื่อเข้าไปพื้นที่บ้านเกาะทรายซอย 1 รับฟังแผนการดำเนินงานการฟื้นฟู กำจัดดินโคลนจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย ที่รับผิดชอบประมาณ 145 ไร่ กว่า 1,000 ครัวเรือน ซึ่งการดำเนินการ ภารกิจแรก คือ การเปิดเส้นทางการจราจรให้ประชาชนสามารถสัญจรเข้าบ้านได้ ซึ่งกว่า 90% ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 

ภารกิจที่ 2 คือ การเข้าฟื้นฟูบ้านประชาชน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วกว่า 65% 

ภารกิจที่ 3 คือ การเข้าช่วยเหลือจากนักเรียนช่างฝีมือทหารในการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์

ภารกิจที่ 4 สารวัตรทหาร ร่วมกับตำรวจในพื้นที่ในการควบคุมการจราจร และดูแลความปลอดภัยในช่วงยามวิกาล

ภารกิจที่ 5 คือการดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล  

 

ภายหลัง นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังรายงานสรุปแผนการดำเนินงาน นายกรัฐมนตรีเดินเท้าลุยโคลนเพื่อเยี่ยมเยียน พบปะชาวบ้านเกาะทราย ซอย 1 เพื่อให้กำลังใจ ขณะที่นายกฯ ได้เข้าไปเยี่ยมบ้านประชาชน คุณยายเจ้าของบ้านคนหนึ่งได้เข้าไปสวมกอดนายกฯ พร้อมกับร้องไห้ เล่าถึงความทุกข์ยากที่พบเจอ ทำให้ช่วงนี้นายกรัฐมนตรีถึงกับน้ำตาคลอ พร้อมกับเอามือไปปลอบเจ้าของบ้าน

 

 

นายกฯ ลุยโคลนปลอบใจชาวแม่สาย

 

นอกจากนี้มีคุณลุงเดินมาหานายกฯ ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถทหาร GMC โดยคุณลุงถึงกับน้ำตาคลอ นายกรัฐมนตรี จึงได้เข้าไปจับมือให้กำลังใจ พร้อมระบุว่า เป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอให้สู้ๆ ขณะนี้กองทัพและอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรทุกอย่างยังอยู่ในพื้นที่ช่วยเหลือ จนกว่าเข้าสู่ภาวะปกติ ยืนยันว่า ไม่ต้องห่วง

 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบกับ "โค้ชเอก" นายเอกพล จันทะวงษ์ ของทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี ที่ต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ และฟื้นฟูจิตใจเด็กและเยาวชนในชุมชนผู้ประสบภัย และช่วงปิดภาคเรียนนี้ ขอให้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นและสนับสนุนเยาวชนได้เป็นจิตอาสา หรือมีรายได้พิเศษจากการทำงาน

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกราบนมัสการพระครูวิบูลธรรมวิมล เจ้าคณะตำบลวัดโพธิ์วิหารพระครูวิบูลย์ธรรมวิมล เจ้าคณะตำบลแม่สาย เจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร ต่อจากนั้นได้มอบเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้
 

  1. มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย ๆ ละ 29,700 บาท และหัวหน้าครอบครัว จำนวน 1 ราย  จำนวนเงิน 59,400บาท
  2. มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย บ้านเสียหายจำนวน 50 ครอบครัว เป็นเงิน 2,475,000 บาท
  3. มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 อำเภอแม่สายจำนวน 222 ครัวเรือนเป็นเงิน 1,110,000 บาทถ้วน
  4. มอบชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย
  5. มอบผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก จำนวน 102 ห่อใหญ่ จากเงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในเขตชุมชน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในเขตชุมชน ณ สถานีวัดระดับน้ํา P1 เชิงสะพานนวรัฐ รับฟังรายงานสถานการณ์น้ําในพื้นที่ แนวทางการฟื้นฟู และติดตามสถานการณ์น้ํา ณ สำนักงานแขวงกาวิละ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ พบปะประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยและให้กําลังใจเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย และจิตอาสา ณ วัดเมืองสาตรน้อย ต่อไป