แพทองธาร ขอบคุณ Time ยกเป็น 1 ผู้นำทรงอิทธิพลแห่งอนาคต นายกฯหญิงอายุน้อยสุด
"แพทองธาร" กำลังเป็นที่จับตาจากสื่อสากล หลังนิตยสาร Time จัดให้เป็น 1 ในผู้นำทรงอิทธิพลแห่งอนาคต นายกฯหญิงอายุน้อยที่สุดในเอเชีย ขึ้นเวที “ACD” ที่โดฮา ก่อนเตรียมผงาดบนเวทีสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ สปป.ลาว 8 ต.ค. นี้
หลังจากที่นิตยสารTIME ยกให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น 1 ในผู้นำทรงอิทธิพลแห่งอนาคต สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอายุน้อยสุดในเอเชีย
5 ต.ค. 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จะจัดขึ้นที่นครเวียงจันทน์ในสัปดาห์นี้ คึกคักเป็นพิเศษ หลังจากสื่อมวลชนต่างประเทศให้ความสนใจ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร TIME ให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต (Time 100 Next) ประจำปีนี้
โดยการจัดอันดับครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ผู้นำ (Leaders), ศิลปิน (Artists), ผู้สร้างปรากฏการณ์ (Phenoms), ผู้สร้างนวัตกรรม (Innovators) และผู้ให้การสนับสนุน (Advocates) ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยติดอันดับในหมวด "ผู้นำ" ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในเอเชีย
โดยนิตยสาร TIME ระบุว่า นายกรัฐมนตรีของไทยได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวัย 38 ปี ของเธอ และ เพียง 1 เดือนของการบริหารราชการแผ่นดินของเธอ ทำให้สื่อมวลชนในภูมิภาคอาเซียนต่างให้ความสนใจในฐานะผู้นำที่อายุน้อยที่สุด คาดหวังว่า จะเป็นโอกาสขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้ประเทศไทย ซึ่ง น.ส.แพทองธาร เคยกล่าวกับนิตยสาร TIME เมื่อปีที่ผ่านมาว่า "ประเทศไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง"
ทั้งนี้สื่อมวลชนต่างเห็นได้จากการบริหารประเทศในช่วงรับตำแหน่ง เพียงหนึ่งเดือนที่มีวิกฤตการณ์อุทกภัยและวาตภัย โดยนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่หลายครั้ง และมีภาวะผู้นำ ทำงานที่ใกล้ชิดอยู่เคียงข้างประชาชน ในช่วงที่เกิดโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสนักเรียน จนทำให้ผลสำรวจความคิดเห็นของ สำนักโพลในไทยที่มีต่อนายกรัฐมนตรี พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในเดือนนี้”
ส่วนของเวทีระดับโลก น.ส.แพทองธาร ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนระหว่างการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนต่างชื่นชมในวิสัยทัศน์ของเธอ โดยมองว่า นายกรัฐมนตรีไทย แม้อายุยังน้อย แต่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะก้าวไปสู่การพัฒนาในอนาคต
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า วันอังคารนี้ (8 ต.ค. 2567) น.ส.แพทองธาร จะเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 ที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 8-11 ต.ค. สื่อมวลชนต่างประเทศจำนวนมากแสดงความสนใจที่จะสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีไทย โดยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้จะเน้นการหารือในกรอบทวิภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อเสริมสร้างพลังให้กับประชาคมอาเซียนในทุกมิติ รวมถึงการเผชิญหน้ากับปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาภูมิรัฐศาสตร์โลก เพื่อให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนในเร็ววันนี้