เปิดกรอบเวลา พิจารณาแต่งตั้ง “รองผบ.ตร. – ผบก.” หลังแต่งตั้ง ผบ.ตร.
ขยายกรอบเวลาแต่งตั้ง “รองผบ.ตร. – ผบก.” ด้าน เลขาฯก.ตร. เผยที่ประชุมพิจารณาคุณสมบัติ ผบ.ตร. รอบคอบถี่ถ้วน รวมถึงปมร้อง ป.ป.ช. จัดซื้ออุปกรณ์ 191
7 ต.ค. 2567 เวลา 16.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 8/2567 มีวาระแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คนที่ 15 โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก.ตร.
ภายหลังการประชุม น.ส.แพทองธาร ได้เดินลงมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)
จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ที่ประชุมมีการเสนอชื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่เรียบร้อยแล้วหรือไม่ ใช่คนในใจที่นายกฯคิดไว้หรือไม่ และใช่คนที่เดินข้างๆหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรียิ้ม ก่อนจะหันมาตอบว่าให้ตำรวจเป็นคนแถลง และเดินทางกลับทันที
ต่อมา พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันนท์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในวันนี้ ที่ประชุมมีมติเรียบร้อย ซึ่งการดำเนินการแต่งตั้งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่เสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติ และให้ที่ประชุมลงมติ ทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมายเรียบร้อย
หลังจากนี้เป็นขั้นตอนที่จะต้องทำตามกฎหมายเพื่อให้มีผล โดยก่อนหน้านี้แคนดิเดตทั้ง 3 ท่าน ได้นำส่งข้อมูลส่วนตัวและผลการดำเนินการไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีล่วงหน้า เพื่อให้นายกรัฐมนตรีประกอบการพิจารณา
วันนี้นายกรัฐมนตรีได้เสนอเพียง 1 ชื่อ และในที่ประชุมฯ ได้ทำการอภิปรายตรวจสอบข้อมูลทั้งประวัติการรับราชการ ความประพฤติ ลำดับอาวุโส ทุกอย่างอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน จนนำมาสู่การลงมติเป็นเอกฉันท์ ไม่มีการคัดค้าน ส่วนกรอบระยะเวลาในที่ประชุมเป็นไปอย่างเหมาะสมไม่ช้า หรือเร็วจนเกินไป
ขณะที่การพิจารณาแต่งตั้ง ตั้งแต่ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ไปจนถึงผู้บังคับการ มีการขยายเวลาการแต่งตั้ง คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 15 ธ.ค. 2567 หรืออาจจะเสร็จเร็วกว่านั้นก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) มีการกล่าวหา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ของกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(ตำรวจ 191) พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาก่อนที่จะมีการประชุมวาระวันนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว แต่ด้วย ป.ป.ช. ยังไม่ชี้มูลความผิดหรือออกคำสั่งใดๆ ฉะนั้นแล้ว พล.ต.กิตติ์รัฐ จึงยังเป็นผู้บริสุทธิ์
ส่วนกรณี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้พิจารณาคุ้มครองตำแหน่งชั่วคราว พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า ขั้นตอนดังกล่าวขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากผลออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะกลับมาพิจารณาตามคำสั่งศาล ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ วาระการพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันนี้