มาแน่! ธีรยุทธ ยื่น ศาลรธน. ฟัน ทักษิณ-เพื่อไทย เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
มาแน่! "ธีรยุทธ" งัดเอกสารกว่า 5 พันแผ่น ยื่น ศาลรธน. สั่ง "ทักษิณ-เพื่อไทย" เลิกใช้สิทธิ-เสรีภาพ อันนำไปสู่การเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ส่งข้อความถึงสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ในเวลา 10.30 น. วันเดียวกันนี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน เดินทางไปยื่นคำร้องขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ โปรดวินิจฉัยสั่งการให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
โดยผู้ร้องยื่นคำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยคำร้อง 65 หน้า และเอกสารประกอบ อีกจำนวน 443 แผ่น รวมคำร้องและเอกสารประกอบชุดละ 508 แผ่น จำนวน 10 ชุด รวมเอกสารทั้งสิ้น 5,080 แผ่น
จากนั้น นายธีรยุทธ จะแถลงข่าวสรุปสาระสำคัญของคำร้อง ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ
คุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธะอิสระ เปิดเผยกับ "เนชั่นทีวี" ว่า กำลังเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ตามที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนจริง
โดยเป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
คุณธีรยุทธ ขยายความว่า ข้อมูลหลักฐานที่นำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นพฤติกรรมของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย รวม 6 กรณี ที่ตนเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง 2 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งหลังจากยื่นคำร้องแล้วจะแถลงรายละเอียดต่อสื่อมวลชน
เมื่อถามว่า กรณีที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเข้าไปหารือจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ 14 สิงหาคม โดยมีข่าวว่าอดีตนายกฯทักษิณเป็นคนเรียกเข้าไป และมีการหารือกันจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เป็นพฤติการณ์ที่นำไปร้องต่อศาลด้วยหรือไม่นั้น คุณธีรยุทธ บอกว่า เป็นหนึ่งในหลายๆ พฤติกรรมของอดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งคิดว่าเข้าข่ายการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ด้วยเช่นกัน
เมื่อซักว่า หลักฐานสำคัญเป็นคลิปลับ หรือ คลิปเสียงตามที่เป็นข่าวหรือไม่ คุณธีรยุทธ ตอบว่า ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องคลิป แต่หลักฐานตามคำร้องของตนเป็นพยานบุคคลที่มีความหนักแน่น และมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดได้
สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 บัญญัติว่า "บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
ผู้ใดทราบว่ามีการกระทําตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทําดังกล่าวได้
ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคําส่ังไม่รับดําเนินการตามท่ีร้องขอ หรือไม่ดําเนินการภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับคําร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคําร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
การดําเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อการดําเนินคดีอาญาต่อผู้กระทําการตามวรรคหนึ่ง"
คุณธีรยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ัวันนี้ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เพราะได้ไปยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดมาแล้ว เมื่อวันที่ 24 กันยายน แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการใดๆ ภายใน 15 วัน และเมื่อวานครบกำหนด 15 วันแล้ว จึงนำคำร้องมายื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยหลังจากยื่นคำร้องจะเปิดแถลงข่าวอธิบายรายละเอียดทั้งหมด
สำหรับ นายธึรยุทธ สุวรรณเกษร เป็นหนึ่งใน "นักร้อง" ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน เนื่องจากเคยยื่นคำร้องเรื่องล้มล้างการปกครอง โดยกล่าวหาพรรคก้าวไกลกรณีรณรงค์หาเสียงให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งมีความหมายเป็นการยกเลิกมาตรา 112 จนศาลรัฐธรรรมนูญสั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดการกระทำมาแล้ว และต่อมาได้ยื่นคำร้องซ้ำให้ยุบพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลถูกยุบในที่สุด