"แพทองธาร" ยัน "เกาะกูด" เป็นของไทย พร้อมเดินหน้า MOU 44 ย้ำ เรื่องนี้ไม่ใช่เผือกร้อน
"แพทองธาร" ควง พรรคร่วมฯ แถลง ไม่ยกเลิก MOU 44 ถามกลับยกเลิกแล้วได้อะไร ลั่นจะรักษาแผ่นดินไทยไว้อย่างเต็มที่ ยัน "เกาะกูด" เป็นของไทย
4 พ.ย. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผ่านภายหลังประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ถึงความชัดเจนเรื่อง MOU 44 โดยมีรัฐมนตรีที่ร่วมหารือ บนตึกไทยคู่ฟ้ามา ร่วมแถลงข่าวด้วย ว่า MOU 44 ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเกาะกูด และเกาะกูด ไม่ได้อยู่ใน MOU เพราะเกาะกูดเป็นของไทย และหากไปดูการตีเส้น เขาก็ตีเส้น เว้น เกาะกูด ไว้ให้ไว้ให้เรา
การพูดคุยกันในวันนี้ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับที่ดิน แต่พูดถึงที่ดินในทะเลว่า สัดส่วนใครขีดเส้นอย่างไร เพราะใน MOU ขีดเส้นไม่เหมือนกัน เนื้อหาใน MOU เป็นข้อตกลงร่วมกันว่า จะมีการเจรจากันระหว่าง 2 ประเทศ ดังนั้นหากจะเกิดอะไรขึ้นจะมีข้อตกลงอะไร เราต้องมีคณะทำงานขึ้นมาพูดคุยกัน
นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้คณะกรรมการของกัมพูชามีอยู่แล้ว แต่ของเราเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล ก็ต้องเปลี่ยนคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ไทย-กัมพูชาด้วย และตั้งแต่ สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี มีคณะกรรมการนี้เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวอยู่ ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะนาน เพราะดำเนินการมาประมาณ 1 เดือนแล้ว เมื่อเสร็จแล้วจะได้ศึกษาและพูดคุยกันว่าระหว่าง 2 ประเทศตกลงกันอย่างไร
เมื่อถามว่า การไม่ยกเลิก MOU ทำให้คนมองว่า เรายอมรับการขีดเส้นของกัมพูชาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิด เราไม่ได้ยอมรับเส้นอะไร เนื่องจากตั้งแต่ปี 2515 กัมพูชาขีดเส้นมาก่อน ต่อมาปี 2516 เราขีดเส้นด้วย แม้จะขีดเหมือนกัน แต่ข้อตกลงข้างในไม่เหมือนกัน จึงทำ MOU ขึ้นมา และเปิดการเจรจาให้ทั้ง 2 ประเทศตกลงกันว่าจะเป็นอย่างไร เราต้องแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้ง 2 ประเทศ
ขอย้ำว่า เกาะกูด ไม่เกี่ยวกับการเจรจานี้ ให้คนไทยทุกคนสบายใจได้เลยว่า เราจะไม่เสีย เกาะกูด และกัมพูชา ก็ไม่ได้สนใจ เกาะกูด ของเราด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
เมื่อถามอีกว่า มีเสียงเรียกร้องให้ ยกเลิก MOU 44 นายกฯ กล่าวว่า "ต้องถามว่ายกเลิกแล้วได้อะไร" เราต้องกลับมาที่เหตุและผล ทุกประเทศ คิดไม่เหมือนกันได้ จึงต้องมี MOU ถ้าคิดไม่เหมือนกัน เราต้องคุยกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก การรักษาไว้ซึ่งความสงบระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ และถ้ายกเลิกฝ่ายเดียวโดนฟ้องร้องจากกัมพูชาแน่นอน ซึ่งไม่มีประโยชน์
เมื่อถามว่า การยืนยันวันนี้อาจถูกมองว่ารัฐบาลเดินต่อโดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน นายกฯ กล่าวว่า ไม่จริงเลย ที่เรามากันในวันนี้ทุกคนตกลงกัน และเข้าใจคอนเซ็ปต์เดียวกันว่า นี้คือข้อตกลงระหว่างประเทศไม่เกี่ยวกับเสียงคัดค้าน วันนี้ที่ออกมาพูดให้ประชาชนฟัง เพื่อจะอธิบายว่า
1. MOU ไม่เกี่ยวกับเกาะกูด
2. MOU คือเรื่องระหว่างสองประเทศ หากจะยกเลิกต้องเป็นการตกลงระหว่างประเทศ
3. เรายังไม่เสียเปรียบเกี่ยวกับข้อตกลงเกี่ยวกับข้อตกลงเลย
"ฉะนั้นอย่าเอาเรื่องของการเมืองมาทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สั่นคลอน เราอยากให้เข้าใจตรงกันตามหลัก" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะเดินหน้าเอ็มโอยูใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอนเราจะเดินต่อ ตอนนี้ กัมพูชารอเราในเรื่องขอคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ไทย-กัมพูชา ที่จะไปศึกษาและพูดคุย
เมื่อถามอีกว่ากลัวประเด็นนี้จะบานปลายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าทุกคนเข้าใจในหลักการแล้ว ไม่น่าจะบานปลาย เพราะทั้งหมด คือข้อเท็จจริงไม่มีการคุยอะไรข้างหลัง เพราะที่ตนกล่าวมา คือกรอบเป็นหลักคิด เป็นกฎหมาย ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เผือกร้อนของตน
เมื่อถามอีกว่าจะใช้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชาในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ที่ดีสามารถสามารถสร้างคอนเน็กชั่นที่ดีได้ เหมือนเรามีเพื่อนสนิทเราก็สามารถคุยกันได้ แต่เรื่องของประโยชน์ของประเทศเขา และประเทศเรา เราต้องใช้คณะกรรมการเพื่อไม่ให้มีอคติ เราใช้คณะกรรมการเพื่อให้เกิดความรู้จริง รู้ครบและยุติธรรม
เมื่อถามว่า ยืนยันจะรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศไทยอย่างสูงสุดใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ดิฉันเป็นคนไทย 100% ประเทศไทยต้องมาก่อนคนไทยต้องมาก่อน รัฐบาลนี้ยืนยันจะรักษาแผ่นดินไทยไว้อย่างเต็มที่ และจะทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขที่สุด"