จับตาปมร้อน! ปธ.ศาลปกครองสูงสุด เตรียมนำคดี "บิ๊กโจ๊ก" เข้าที่ประชุมใหญ่
จับตาปมร้อน! ประธานศาลปกครองสูงสุด เตรียมนำคดี "บิ๊กโจ๊ก" เข้าที่ประชุมใหญ่ เปิดขั้นตอน องค์คณะ 5 คน เสนอความเห็น ก่อนลงมติ
12 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 ต่อศาลปกครองสูงสุด เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา
มีรายงานว่า ประธานศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเตรียมให้นำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยหลักเกณฑ์ที่จะนำเข้าที่ประชุมคดีใหญ่ จะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจมีผลกระทบเป็นวงกว้าง เเละมีประเด็นข้อกฎหมายอันสำคัญ
สำหรับองค์คณะที่พิจารณาคดีนี้ในศาลปกครองสูงสุด จะประกอบด้วยตุลาการ จากศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คน เป็นองค์คณะ เมื่อประธานศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นำคดีเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด องค์คณะ ทั้ง 5 จะมีหน้าที่บรีฟข้อเท็จจริง เสนอความเห็นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เพื่ออภิปรายพิจารณาเเละมีมติเป็นคำพิพากษาคำสั่งต่อไป สำหรับที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดในปัจจุบัน มีตุลาการศาลปกครองสูงสุดประมาณ 20 กว่าคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ฟ้องสรุปว่า เดิมผู้ฟ้องคดีดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ชื่อ BNK MASTER จนถูกดำเนินคดีอาญาและถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน
ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีหนังสือ ที่ ตช 0083(อธ)/933 วันที่ 5 ส.ค. 2567 เรื่องแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เรื่องดำที่ อธ. 100/2567 เรื่องแดงที่ อธ. 33/2567 โดยมีคำวินิจฉัยยกอุทธรณ์ และยกคำขอวิธีการชั่วคราวฯ