ข่าว

เจาะสาเหตุ โผพลิก “พล.ต.ท.สยาม” เบียดนั่ง ผบช.น. แทน “พล.ต.ท.สันติ”

เจาะสาเหตุ โผพลิก “พล.ต.ท.สยาม” เบียดนั่ง ผบช.น. แทน “พล.ต.ท.สันติ”

21 พ.ย. 2567

เปิดเหตุผล โผพลิก “พล.ต.ท.สยาม บุญสม” เบียดนั่ง ผบช.น. แทน “พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย” จารึกหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์ ก.ตร.ยึดอาวุโส เกือบ 100%

จัดเป็นบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ สำหรับการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ถึง ผู้บัญชาการ (ผบช.)  วาระประจำปี 2567 ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในยุค ที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร เป็น ผบ.ตร.

 

ต้องยอมรับว่า การพิจารณารอบนี้ รายชื่อผู้ที่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้มีความอาวุโสเกือบ 100% เรียกว่าได้ใจบรรดาสีกากีไปเต็มๆ

 

โดยในส่วนของระดับ รองผบ.ตร. กับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตามกฎ ก.ตร. ต้องแต่งตั้งยึดตามหลักเกณฑ์อาวุโส 100 เปอร์เซ็นต์

รองผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง มีชื่อ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ,  พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี , พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง , พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร

 

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 7 ตำแหน่ง มีชื่อ พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา หัวหน้าจเรตำรวจ , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส. , พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผบช.สกบ. , พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 , พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4

 

ส่วนตำแหน่งที่ถูกจับตามากที่สุด คือ ระดับ ผบช. มีตำแหน่งว่าง 14 ตำแหน่ง โดยต้องแต่งตั้งตามหลักอาวุโส 50 เปอร์เซ็นต์ คือ 7 ตำแหน่ง ส่วนอีก 7 ตำแหน่ง พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน และความรู้ความสามารถประกอบกัน

อย่างไรก็ดีก่อนการประชุม ก.ตร. 1 วัน บอร์ดกลั่นกรอง หรือ คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม มีความเห็นว่า กฏเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายเลื่อนขึ้นเป็น ผบช. เดิมพิจารณาให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปีขึ้นไป ปรับเป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปีขึ้นไป

 

รวมทั้งขอให้พิจารณาโดยคำนึงถึง ลำดับอาวุโส ประกอบกับ ผลงานความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ก่อน โดยมีการจัดทำลำดับบัญชีรายชื่อแต่งตั้งเพื่อเสนอ ก.ตร. พิจารณา

 

ทั้งนี้พบว่า ที่ประชุม ก.ตร. เห็นชอบแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งขึ้น ผบช. ในรอบนี้ เป็นผู้อาวุโสเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมี 13 คน ครองตำแหน่ง รองผบช. 4 ปี มีเพียงคนเดียวที่ครองตำแหน่ง 3 ปี คือ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5  นรต.41 ขยับขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ตร.(ทำหน้าที่ประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรี) โดยที่ประชุมเห็นว่า ทำงานในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ และมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการปราบปรามยาเสพติด เป็นที่ประจักษ์ จึงเห็นชอบให้เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.

 

ส่วนตำแหน่งที่ถูกโฟกัสเป็นพิเศษ คือ ตำแหน่งหลัก อย่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่พบว่าโผพลิก จากโผเดิม มีชื่อ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จตร.(สบ 8) นรต.รุ่น 48 สายตรง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีต รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. โยกมาแทน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ที่เลื่อนขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.

 

แต่ในที่ประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2567 เห็นชอบให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม จตร.(สบ 8) นรต.รุ่น 46 มาดำรงตำแหน่ง ผบช.น. แทน 

 

พล.ต.ท.สยาม บุญสม

 

เปิดสาเหตุ ทำไมถึงเปลี่ยนตัว สลับให้ พล.ต.ท.สยาม มานั่งเก้าอี้ ผบช.น. แทน พล.ต.ท.สันติ 

 

เนื่องจาก ก.ตร. เห็นถึงความเหมาะสมของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม เคยเป็น รองผบช.น. มีความรู้ความเชี่ยวชาญในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งเคยปฏิบัติภารกิจด้านกิจการพิเศษ อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง จึงโยกให้มาดำรงตำแหน่ง ผบช.น. แทน ซึ่งเป็นการโยกในระนาบ

 

ส่วน พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จตร.(สบ 8) โยกไปเป็นมือปราบยาเสพติด ในตำแหน่ง ผบช.ปส.

 

นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งหลักที่เป็นไปตามโผเดิม อาทิ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. นรต.รุ่น 41 สายตรง “นายกปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้น เป็น ผบช.สตม.

 

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 41 โยกในระนาบมาเป็น ผบช.ภ.1

 

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สภพ. นรต.รุ่น 41 โยกในระนาบ มาเป็น ผบช.ภ.2 

 

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ศ. นรต.รุ่น 40  โยกในระนาบมาเป็น ผบช.ภ.3

 

พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2  นรต.รุ่น 42 สายตรงอดีต “นายกปู” น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 

 

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5  นรต. รุ่น 42 อยู่ที่เดิม

 

พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6  นรต.รุ่น 42 ลูกชาย พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ อดีต ผบ.ตร. อยู่ที่เดิม 

 

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 40 สายการเมืองใหญ่อยู่ที่เดิม

 

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 นรต.รุ่น 42 สายตรง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.อยู่ที่เดิม

 

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9  นรต.รุ่น 42 อยู่ที่เดิม

 

พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 42 เป็น ผบช.ส.

 

พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รองผบช.ภ.9 นรต.รุ่น 40 เป็น ผบช.ตชด.

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. นรต.รุ่น 46  โยกมาเป็น ผบช.สอท.

 

พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รองผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 44  เป็น ผบช.สพฐ.ตร. 

 

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 47 มือทำงานภาพลักษณ์ตำรวจ โยกเป็น ผบช.ศ.

 

พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. นรต.รุ่น 40 อยู่ที่เดิม

 

พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์. ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. สายตรงนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และ นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ขยับเป็น จตร.(สบ 8) 

 

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 46 เป็น ผบช.สกพ.

 

พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 เลื่อนขึ้น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.

 

พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผบช.ภ.5 นรต.รุ่น 43  เลื่อนขึ้น จตร.(สบ 8)

 

พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รองผบช.ภ.2  เลื่อนขึ้น จตร.(สบ 8)

 

พล.ต.ต.วราวุธ สกลสนารักษ์ รองผบช.สตส. อดีตนายเวร พล.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง อดีตรองผบ.ตร. เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.งป.