เปิดประวัติ "ยุน ซอกยอล" ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ผู้ที่ประกาศกฎอัยการศึก
KEY
POINTS
“ยุน ซอกยอล” (Yoon Suk Yeol) จากอัยการน้ำดีผู้ปราบทุจริต สู่ผู้นำประเทศประธานาธิบดีเกาหลีใต้ การเข้าสู่สนามการเมือง กลับทำให้เขากลายเป็นผู้นำที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุดอีกคนหนึ่งของเกาหลีใต้ เมื่อค่ำคืนวันที่ (3 ธ.ค.) ทั่วโลกต่างตกตะลึงเมื่อ ยุน ซอกยอล ออกมาประกาศกฎอัยการศึก อ้างเหตุผลที่ทำไปก็เพื่อ ปกป้องประเทศ จากภัยคุกคามคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ซึ่งมีพรรคฝ่ายค้าน ร่วมมือกับฝั่งตรงข้าม จึงมีจำเป็นต้องกำจัดภัยความมั่นคงของรัฐนี้ออกไป เหตุนี้คือการจุดชนวนวิกฤตทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษของแดนโสม
ยุนซอกยอล (Yoon Suk Yeol) เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1960 ที่กรุงโซล เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 2 คน โดยบิดามารดาของเขาเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย ยุนซอกยอล จบการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล และเริ่มรับราชการในตำแหน่งอัยการเมื่อปี 1994 และเคยเป็นทนายความในช่วงสั้นๆเมื่อปี 2002 โดยระหว่างทำงานในสำนักงานอัยการ ยุนซอกยอล มีบทบาทในการตรวจสอบนักการเมืองระดับสูงและนักธุรกิจรายใหญ่
ปี 2013 ยุนซอกยอล เป็นผู้นำทีมสอบสวนชุดพิเศษ โดยเดินหน้าตรวจสอบหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลี (National Intelligence Service) เกี่ยวกับประเด็นอื้อฉาวที่ เปิดฉากตรวจสอบคดีอื้อฉาวที่ พัคกึนเฮ และ นางชเวซุนซิล คนสนิท ซึ่งทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดฐานทุจริตร้ายแรง รวมถึงใช้อำนาจและอิทธิพลในทางมิชอบ จนนำไปสู่การถอดถอน พัคกึนเฮ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคม 2017 ต่อมาไม่นานในช่วงเดือนพฤษภาคม 2017 ประธานาธิบดีมูนแจอิน ได้รับเลือกตั้งขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน พัคกึนเฮ ได้แต่งตั้ง ยุนซอกยอล เป็นผู้อำนวยการสำนักงานอัยการประจำเขตพื้นที่กรุงโซล และแต่งตั้งเป็นอัยการสูงสุดของเกาหลีใต้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2019
ต่อมา ยุน ซอกยอล ได้ลาออกจากตำแหน่งอัยการสูงสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2021 และประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ และเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ปี 2022 โดยเอาชนะ อี แจ-มยอง จากพรรคประชาธิปไตย (DP) ด้วยชัยชนะคะแนนเสียงห่างกันไม่ถึง 1% หวุดหวิดที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้
หลังเข้ารับตำแหน่ง ยุน ซอกยอล ต้องเผชิญปัญหาและเรื่องอื้อฉาวจำนวนมาก เวลาผ่านไป จากข่าวเสียหายต่างๆ ของตัวปธน. ทำให้สมดุลทางการเมืองเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้คะแนนความนิยมของตัวยุนเองก็หดหายไป หากจะยุบสภาใหม่ก็อาจแพ้การเลือกตั้ง จึงทำให้เกิด ประกาศใช้อัยการศึกครั้งแรกในรอบ 45 ปี ซึ่งสร้างความไม่พอใจในวงกว้าง ทั้งในระดับภายในและระหว่างประเทศ สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความยากลำบากของการเป็นผู้นำเป็นอย่างมาก ทำให้ฝ่ายค้านระบุว่าการประกาศดังกล่าวเป็น “การรัฐประหารโดยพฤตินัย” และรัฐสภามีมติยกเลิกกฎอัยการศึกในเวลาไม่กี่ชั่วโมง