
ส่องดราม่า! ยิวทะลักแม่ฮ่องสอน ลงหลักปักฐานเป็นดินแดนพันธะสัญญา
ส่องดราม่า! ยิวทะลักแม่ฮ่องสอน ลงหลักปักฐานเป็นดินแดนพันธะสัญญา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งให้ ตร.ในพื้นที่ชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ใน อ.ปาย ภายใน 7 วัน
18 ก.พ. 2568 พ.ต.ท.สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรณีปรากฏข่าวทางโซเชียล เรื่องชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวนมาก เพื่อตั้งถิ่นฐานและลงหลักปักฐานเป็นดินแดนพันธะสัญญา รวมถึงตั้ง Chabad รวมกลุ่ม สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน และแย่งอาชีพคนไทย ฯลฯ นั้น ขอนำเรียนข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อทราบดังนี้
1.จำนวนประชากร ของอำเภอปาย มีประมาณ 38,000 คน
2.จำนวน นทท. จำนวน 30,000.คน ตามที่ปรากฏในสื่อ เป็นยอด นทท. อิสราเอล ที่แจ้งเข้าพัก ตาม ม 38 ( ตม. )เป็นยอด นทท. สะสม ทั้งปี ( ซึ่งยอด นทท. อิสราเอล เฉลี่ยที่เข้าพักในแต่ละวัน มีประมาณ 83-84 คน
3.นทท. ที่มาเที่ยวปาย มากที่สุด คือ นทท. อังกฤษ อิสราเอล อเมริกา เยอรมัน ตามลำดับ
4.ชาบัด หรือโบสถ์ยิว ในอำเภอปาย ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธี ในวันศุกร์ และเสาร์ เนื้อที่ประมาณ 2 งาน และใช้เป็นที่รับประทานอาหาร ความจุประมาณ 200 คน
5. ชาบัดหรือโบสถ์ยิว มีจำนวน 7 แห่ง เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย พัทยา พะงัน ที่ใหญ่สุด กทม.
6.การเข้าของ นทท. ทุกสัญชาติ เข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมาย
7.การตั้งถิ่นฐานในความเป็นดินแดนพันธะสัญญา ยังไม่มีการดำเนินการใดใดทั้งสิ้น รวมถึงการแย่งอาชีพคนไทย ที่ทุกฝ่ายได้เฝ้าระวังตรวจตรา บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งทุกหน่วยงานได้ดำเนินการ ปชส. ให้ทุกช่องทางได้รับรู้ รับทราบ ทุกระยะ
สำหรับมาตรการระยะยาว ที่ได้เคยประชุมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ก็จะยังคงดำเนินมาตรการบังคับอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่อง รถเช่า ล่องห่วงยาง สูบกัญชา เป็นต้น ซึ่งทุกหน่วยงานได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ให้ทุกช่องทางได้รับรู้ รับทราบ ทุกระยะ สำหรับมาตรการระยะยาวที่ได้เคยประชุมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ก็จะยังคงดำเนินมาตรการบังคับอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่อง รถเช่า ล่องห่วงยาง สูบกัญชา เป็นต้น
พล.ต.ต.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยทางโทรศัพท์ ว่า กรณีปัญหาในปาย โดยเฉพาะเรื่องโบสถ์ยิว ไม่ได้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นข่าวในกระแสสื่อโซเชียลแต่อย่างใด ไม่ได้มีการจัดงานปาร์ตี้ หรือเป็นแหล่งมั่วสุม แต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของศาสนายิว ที่มีการสวดมนต์ทานอาหารร่วมกัน ในทุกวันศุกร์และต่อเนื่องไปถึงวันเสาร์ของทุกสัปดาห์เท่านั้น
ส่วนเรื่องชาวยิวที่ก่อเหตุและทำผิดกฎหมายไทย ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำการจับกุมและถึงขั้นเนรเทศออกไปจากประเทศไทยมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดตามกฎหมาย กับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวและพำนักในปายอย่างต่อเนื่อง และให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนคนไทยในปาย และ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในปาย ให้รับทราบถึงกฎระเบียบ ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเมืองปาย เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
ก่อนหน้านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เรื่อง ตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยระบุด้วยปรากฏข้อมูลข่าวสารว่า มีกลุ่มคนต่างด้าวในหลายพื้นที่ มีพฤติกรรมที่อาจขัดต่อความสงบต่อสังคม หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออก หรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ จึงกำชับให้หน่วยดำเนินการ โดยเฉพาะ ตำรวจภูธร ภ.5 (ภ.จว.แม่ฮ่องสอน)
สำหรับกรณีที่ปรากฏข้อมูลข่าวสาร กลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ให้ดำเนินการตรวจสอบ และรายงานผลการปฏิบัติให้ ตร. ทราบ (ผ่าน ศปชก.ตร.) ภายใน 7 วัน (ห้ามผัดส่ง) โดยได้ มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. (มค 1) เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ โดยเปิดให้ สตม, ตชด, บช.ทท. และหน่วยงานในในพื้นที่ ดำเนินการเชิงรุกให้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยด่วน ให้ ศปชก.ตร. อำนวยการ ควบคุม ดูแลการปฏิบัติในภาพรวม และให้เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับคนต่างด้าวตามนัยหนังสือนี้ต่อไปเพื่อทราบและดำเนินการ
นายอาวุธ เจษฎาไกรสร ผู้ประกอบการในอำเภอปาย เจ้าของโรงแรมเดอะพีคอก เดอปาย ที่เคยทำธุรกิจใน 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้และย้ายมาประกอบกิจการในปาย ระบุว่าช่วงที่ผ่านมา 2 อาทิยต์นี้รู้ไหมว่า อิสราเอลเขาไปที่เชียงราย และถ้าเชียงรายประท้วงเขาอีกก็มีปัญหาขึ้นอำเภอปายเป็นเมืองที่สงบ วัฒนธรรมดี ถามว่าคนที่ประท้วงไม่มองให้รอบด้าน ไม่ใช่ผมเข้าข้างชาวอิสราเอล คนไม่ดีเราใช้กฎหมายเนรเทศออก แย่งอาชีพเราก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่เรามาโวยวายแอนตี้ ยิ่งข่าวออกมาเท่าไหร่ อำเภอปายยิ่งเสียหาย กระทบการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ผมพูดในฐานะผู้ประกอบการ ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และพูดในฐานะเคยอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ผมมาทำธุรกิจที่อำเภอปาย เพราะว่ามีเหตุการณ์เรื่องระเบิดกระตุ้นยังไงไม่ได้ผล ยกเว้นทำให้คนมีการศึกษา มีความคิด อำเภอปายบริสุทธิ์ดีอยู่แล้ว แค่คนกลุ่มเล็กไม่ใช่ส่วนมาก ทำงานแบบนี้ผมเชื่อว่าหากยังไม่หยุดกระแสข่าวตัวนี้ อนาคตอำเภอปายจบ ชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในอำเภอปายเป็นล้านคน คุณจะให้เสีย ไม่ใช่อิสราเอลนะ เสียทั้งหมด วอนรัฐบาลคิด วอนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ จะทำอะไรให้มองภาพรวม