
"ภูมิธรรม" ระบุ "หลิว จงอี้" ขอโทษคนไทย ทำรู้สึกถูกรุกล้ำอธิปไตย
"ภูมิธรรม" เห็นด้วย 3 ข้อเสนอ ปราบแก๊งคอลฯ ระบุ "หลิว จงอี้" ขอโทษคนไทย ทำรู้สึกถูกรุกล้ำอธิปไตย เผยสาเหตุรีบเร่ง เพราะห่วง ปชช.ตัวเอง
19 ก.พ. 2568 ที่ กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุมหารือกับ นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมผู้ช่วยทูตทหารของจีน, ทูตทหารจีน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหมด 6 คน โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่า จึงเสร็จสิ้น
นายภูมิธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า นายหลิว จงอี้ ยืนยันว่า การทำงานของตนในประเทศไทย เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมย้ำว่าเคารพในอธิปไตยของไทย และกฎหมายท้องถิ่นของไทย พร้อมกล่าวขอโทษคนไทย ที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ที่ดูเหมือนว่าเข้ามารุกล้ำอธิปไตยตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน นายหลิว จงอี้ กล่าวว่า อาจเป็นความเร่งร้อนและมุ่งมั่นมากเกินไป เพราะห่วงประชาชนของตัวเอง จึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจไปบ้าง
นายภูมิธรรม ได้บอกกับนายหลิว จงอี้ ว่า ไม่เป็นไร เพราะรู้ว่ามีความตั้งใจและความมุ่งมั่น ซึ่งเรามีความเข้าใจกันอยู่แล้ว ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่จะทำงานร่วมกัน และจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้มากขึ้น ซึ่งนายหลิว จงอี้ อยากให้ไทยชี้แจงประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ
นอกจากนี้ นายหลิวจงอี้ ชื่นชมมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดน้ำมัน ของรัฐบาลไทย ในส่วนของฝ่ายจีน นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายหลี่เฉียง นายกฯ จีน ได้ชื่นชม พร้อมทั้งขอบคุณผ่าน น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เราเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และร่วมกันทำงานจนได้ผล ซึ่งนานาประเทศก็ชื่นชมในการทำงานครั้งนี้ ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแก๊งคอลเซนเตอร์ ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม กล่าวถึง 4 ข้อเสนอ ของนายหลิว จงอี้ ซึ่งตนเห็นด้วย 3 ข้อ ได้แก่
1. การเสริมสร้างกลไกไตรภาคีที่เป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือระหว่าง ไทย ,เมียนมา ,จีน เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ให้เป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในการประสานงาน ขณะนี้ รมช.มหาดไทยเมียนมา, ผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา อยู่ในไทยแล้ว พร้อมเปิดการเจรจาไตรภาคี ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศไทย
โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งกลไกไตรภาคี เชิญทางเมียนมา, ในฝ่ายไทย รมว.กลาโหม จะเข้าร่วมเอง หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการจัดประชุมไตรภาคี ขณะนี้กระทรวงกลาโหมกำลังประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ
2. ฝ่ายไทยจะช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีน ที่มีทั้งเหยื่อและผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ปัจจุบันมีชาวจีนที่ผ่านการคัดกรองอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 600 คน ซึ่งทางจีนจะส่งเครื่องบินมารับทั้งหมด 3 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวละ 200 คน ห่างกัน 3 วัน ส่วนเหตุที่จะต้องใช้สนามบินแม่สอด จ.ตาก เพราะเนื่องจากเส้นทางในเมียนมาไม่ปลอดภัย เช่น มีกับระเบิด
ซึ่งเมื่อหมดล็อตนี้แล้ว จะไปหารือในวงประชุมไตรภาคี ซึ่งไทยมีเงื่อนไขว่า การส่งตัวกลับต้องขึ้นเครื่องกลับไปโดยทันที ไม่มีพักคอยที่ อ.แม่สอด โดยฝ่ายจีนรับปากว่า หากจีนสอบสวนขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ได้ข้อมูลว่ามีส่วนใดเกี่ยวโยงกับประเทศไทยแล้ว จะแจ้งให้ทางการไทยรับทราบ เพื่อนำไปสู่การขุดรากถอนโคนเครือข่ายต่อไป
3. ฝ่ายไทยได้ตอบรับมาตรการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ต่อไป จนกว่าจะพิสูจน์ว่าแก๊งคอลเซนเตอร์จะเบาบางจนถึงหมดไป พร้อมสกัดไม่ให้อาชญากร ย้ายฐานไปที่อื่น
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยได้ร้องขอเครื่องมือพิเศษจากจีนในการตรวจตู้คอนเทนเนอร์ เพราะจีนกังวลว่าจะมีสินค้าต้องห้ามเล็ดรอดออกไป ซึ่งทางจีนรับปากว่าจะนำไปพิจารณา
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่ 4 ที่ให้ปิดกั้นสิ่งอุปโภคบริโภคไปยังเมียนมา เพราะไทยต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และไม่อยากให้กระทบกับประชาชนที่ไม่มีส่วนรู้เห็นทั้งสองประเทศ
สำหรับในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 2568) จะมีการส่งกลับคนจีน 4 เที่ยวบิน ซึ่งตนเอง พร้อม รมช.กลาโหม, ปลัดกลาโหม, จเรตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายจีนนำโดย นายหลิว จงอี้ และคณะ
ส่วนฝ่ายเมียนมา นำโดย รมช.มหาดไทย เมียนมา และคณะ จะเดินจากกองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินแม่สอด ไปส่งคนจีนกลับประเทศ เพื่อให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ
จากนั้น เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถาม โดยนายภูมิธรรม ได้ย้ำว่า เรื่องสถานที่ประชุมไตรภาคี ต้องเอาที่สะดวกที่สุดกับทุกฝ่าย ซึ่งทางฝั่งเมียนมามีความพร้อมแล้ว เพราะนายหลิว จงอี้ ได้ไปพูดคุยกับทางเมียนมา แล้วมารายงานกับตนว่า พร้อมที่จะมาพูดคุย เลยมาขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับไทยว่าจะพร้อมหรือไม่ ให้กลไกนี้สมบูรณ์
เมื่อถามย้ำถึงจำนวนเที่ยวบินที่จะมารับคนจีน นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะมี 3 รอบ แต่ละรอบเว้น 3 วัน ซึ่งในรอบแรกจะมี 4 เที่ยวบิน
"อันนี้เป็นข้อตกลงสุดท้าย ไม่ต้องมี เห็นว่า-ได้ยินว่า ยืนยันชัดเจน เพราะผมได้ตัดสินใจพูดคุย กับเขาในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว เขายอมรับทุกอย่าง และขอบคุณเราที่เข้าใจ ซึ่งเราจะร่วมมือกันอย่างดี" นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามถึงการคัดกรองเหยื่อ และขบวนการคอลเซนเตอร์ นายภูมิธรรม ระบุว่า การดำเนินการทั้งหมด เป็นกระบวนการร่วมกัน เดี๋ยวเราจัดการกันเองภายใน และไม่อยากเปิดเผยให้ทราบมาก เพราะเป็นกระบวนการที่ยังต้องต่อเนื่อง ยังไม่มีที่สิ้นสุด ขออนุญาตไม่พูดถึงรายละเอียด
ส่วนการรับมือกับชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวจีน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้ว เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถดูได้ว่าจะนำออกมาจัดการได้เท่าไหร่ ได้มาทุกครั้งก็ต้องมีกระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ (MRN) และให้ดำเนินการที่ฝั่งเมียนมา เพราะไม่ต้องการให้เป็นภาระของไทย
"ไม่มีทางไปก็ค้างอยู่ที่เรา เราไม่อยากตั้งค่ายผู้อพยพอีก เพราะฉะนั้นต้องเคลียร์ทางฝั่งเมียนมาให้เรียบร้อย ถ้าจะออกมาก็ต้องชัดเจน ถ้าเป็นคนจำนวนน้อย สถานทูตต่างๆ ก็ต้องมารับตัวไปดำเนินการ หากมาเยอะก็ต้องวางแผนใหม่ อย่างประเทศเอธิโอเปียก็มีปัญหาว่า เขาไม่มีสถานทูตในประเทศไทย ก็กำลังประสานงานกันอยู่ เขาก็ต้องมารับ ถ้าจะเอาคนออกไปก็ต้องผ่านกระบวนการ ไม่มีมาค้างที่แม่สอดก่อน แล้วมาว่ากันที่หลังไม่มี" นายภูมิธรรม กล่าว