
"พิพัฒน์" แจง! งบดูงานต่างประเทศ - งบทำปฏิทิน ทำเพื่อประโยชน์ผู้ประกันตน
รมว.แรงงาน แจงชัดทุกประเด็น "งบทำปฏิทิน" ไม่ใช่แค่วันที่แต่ละเดือน แต่ยังมีข้อความแสดงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ส่วน "งบดูงานต่างประเทศ" เป็นการศึกษาเพื่อประโยชน์ผู้ประกันตน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีงบจัดทำปฏิทินของสำนักงานประกันสังคม ว่า ในเรื่องนี้ขอให้ดูที่การปฏิบัติ โดยในปฏิทินประกันสังคมนอกจากด้านหน้าจะเป็นวันที่แต่ละเดือน ด้านหลังจะมีข้อความแสดงรายละเอียดสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในแต่ละมาตรารวมอยู่ด้วย ทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 เพื่อสื่อสารสิทธิประโยชน์ไปยังผู้ประกันตน โดยเฉพาะแรงงานอิสระที่มีอยู่เกือบ 30 ล้านคน ซึ่งในแต่ละปีสำนักงานประกันสังคมจัดพิมพ์ปฏิทิน จำนวน 1 ล้านฉบับ แต่ขณะเดียวกันเรามีผู้ประกันตนมาตรา 40 อยู่ประมาณ 12 ล้านคน อีก 10 กว่าล้านคน ยังไม่ได้เข้ามาเป็นผู้ประกันตน
ดังนั้น เราจึงสื่อสารสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อยากเข้ามาเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับทราบว่าเมื่อเขาสมัครเข้ามาแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งจะมีรายละเอียดอยู่ในปฏิทิน เพื่อในแต่ละปีจะได้ทราบว่าประกันสังคมจะให้สิทธิประโยชน์ในเรื่องอะไรบ้าง
“ผมขอเชิญชวนบริษัทต่างๆ ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาทางสำนักงานประกันสังคมในการจัดทำปฏิทิน ซึ่งเราไม่ได้ปิดกั้น สำนักงานประกันสังคมพร้อมเปิดตลอดเวลา"นายพิพัฒน์ กล่าว
ส่วนกรณีมีผู้นำปฏิทินประกันสังคมไปจำหน่ายในช่องทางออนไลน์นั้น รมว.แรงงาน กล่าวว่า ในเรื่องนี้ได้ให้ทางฝ่ายกฎหมายของสำนักงานประกันสังคมไปตรวจสอบ เราผลิตเพื่อแจกฟรีให้ผู้ประกันตนเท่านั้น ไม่ได้ทำมาเพื่อจัดจำหน่ายดังนั้นหากมีเบาะแสขอให้ช่วยแจ้งเข้ามา สำนักงานประกันสังคมพร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมาย
แจงงบดูงานต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ผู้ประกันตน
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงงบดูงานต่างประเทศของสำนักงานประกันสังคมว่า เราพร้อมที่จะเปิดเผย การที่บอร์ดประกันสังคมไปดูงานนั้นในเรื่องนี้ได้มีการประสานกับประเทศปลายทางว่าการไปดูงานนั้นมีวัตถุประสงค์อะไร ไปแล้วกลับมาเราต้องทำรายงาน
“ยกตัวอย่างเช่น ผมได้ไปดูงานที่ประเทศสวีเดนและเอสโตเนีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีระบบประกันสังคมที่ดีที่สุดในโลก เพื่อดูว่าประเทศเหล่านี้มีการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคมอย่างไร เนื่องจากหลายฝ่ายทั้ง ILO (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ) และ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติวิเคราะห์ตรงกันว่าในปี 2597 กองทุนประกันสังคมจะล่มสลาย ส่วนตัวเป็นห่วงกังวลในเรื่องนี้ เราจึงพยายามเปรียบเทียบว่าประเทศที่เจริญแล้วหรือทำสำเร็จแล้วเขาทำกันอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 สำนักงานประกันสังคมก็ได้เชิญนักวิชาการมหาวิทยาลัย พรรคการเมือง และประเทศต่างๆ ที่มีระบบประกันสังคมมาระดมสมองกันว่าจะทำอย่างไรให้กองทุนประกันสังคมของไทยยืนยาว” รมว.แรงงานกล่าว