
ประธานวุฒิสภา ประกาศ สว. 67 มาอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรอบจาก กกต.
ประธานวุฒิสภา แถลงข่าวยืนยัน สว. 67 มาอย่างถูกต้อง กรณีสว.สำรองร้อง ดีเอสไอ ตรวจสอบ ที่จริงคือหน้ำที่ ของกกต.
21 ก.พ. 2568 ที่อาคารรับรอง 2 โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย ประพลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.แถลงข่าวถึงกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเรื่องจากกลุ่มตัวแทน สว.สำรอง และ ผู้สมัครรับเลือก สว.จำนวนกว่า 40 คน ที่ขอให้สอบสวนการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ โดยเชื่อว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ประธานวุฒิสภา ยืนยันว่า สว.ที่ได้รับเลือกเข้ามาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับผู้หนึ่งผู้ใด การที่หน่วยงานที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบออกมาให้ข่าวอาจสร้างความเสียหาย และถือว่าเป็นหน้าที่ที่ สว.ต้องออกมาปกป้องสิทธิ ปกป้องศักดิ์ศรี โดยอำนาจในการตรวจสอบการเลือก สว. เป็นของคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ สว.ชุดนี้เมื่อได้รับการรับรองจาก กกต.ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาให้ความร่วมมือกับ กกต. มาโดยตลอด ส่งข้อมูลตามที่ได้รับการร้องขอ เชื่อว่า การยื่นเรื่องให้ตรวจสอบครั้งนี้มีกลุ่มขบวนการต้องการให้เข้าสู่วังวนวิกฤตรัฐธรรมนูญอีกครั้ง
ทั้งนี้ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา กลุ่ม สว.สำรอง และตัวแทนผู้สมัครรับเลือก สว.จำนวนกว่า 40 คน นำโดย พลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้สอบสวนการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ เพราะเชื่อว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแต่เดิมกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนการได้มาซึ่ง สว.ไว้ดำเนินการแล้ว และได้รับการร้องเรียนเพิ่มเติมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งในการร้องขอครั้งก่อนหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวนกรณีดังกล่าวตั้งแต่ได้รับการร้องเรียนในเดือนกรกฎาคม 2567 โดยมีการออกเลขสืบสวนที่ 151/2567 ทำการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานเบื้องต้น และได้แจ้งเรื่องไปยัง กกต. เพื่อพิจารณาว่า จะรับเรื่องไปดำเนินการหรือจะมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ซึ่งตามกฎหมายให้อำนาจหน้าที่ กกต. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
โดยที่ผ่านมา กกต.ได้ตั้งคณะร่วมทำการสืบสวนในกรณีนี้ด้วยหลายหน่วยงาน เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2568 กกต.มีหนังสือสอบถามว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการรับเรื่องไว้จำนวนเท่าไร มีผลการดำเนินการอย่างไร กรมสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งผลการดำเนินงานไปยัง กกต. เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2568 พร้อมสอบถามความคืบหน้าว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการอย่างไร ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการพิจารณาของ กกต.