ไลฟ์สไตล์

ดัน 'น้ำพุร้อนเค็ม' คลองท่อมกระบี่ 'เมืองสุขภาพ' แหล่ง 'ท่องเที่ยวยั่งยืน'

ดัน 'น้ำพุร้อนเค็ม' คลองท่อมกระบี่ 'เมืองสุขภาพ' แหล่ง 'ท่องเที่ยวยั่งยืน'

05 ก.ค. 2566

อพท. ดัน 'คลองท่อม' กระบี่ เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน ดึงกลุ่มรักสุขภาพสัมผัส “น้ำพุร้อนเค็ม - น้ำตกร้อน” ฟื้นฟูธรรมชาติ สร้างรายได้แก่ชุมชน

 

'คลองท่อม' จ.กระบี่ มีความโดดเด่นทั้งด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่ ต.ห้วยน้ำขาว เป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็มแห่งเดียวของประเทศ และเป็น 1 ใน 2 แห่งของทั่วโลก โดยอีกแห่งอยู่ในประเทศสาธารณรัฐเชค คลองท่อมจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่จะผลักดันให้เป็น 'เมืองสุขภาพ' และส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน

 

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จะผลักดัน "คลองท่อม" ให้เป็น "เมืองสุขภาพ" ภายใต้แนวคิด "คลองท่อมเมืองสุขภาพ หรือ Wellness" และจะประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีน้ำตกร้อน สระมรกต และน้ำพุร้อนเค็ม 

 

 

ทั้งนี้ อพท. เตรียมสรุปผลการศึกษาและนำเสนอคณะกรรมการ อพท. พิจารณาประกาศให้ "คลองท่อม" เป็นพื้นที่พิเศษฯ ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้จะศึกษาแล้วเสร็จ และจะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งกระบวนการในปี 2567  

 

 

จากนั้นจะไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษ อ.คลองท่อม ที่จะต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล และแผนยุทธศาสตร์ชาติ BCG Model ที่นำคุณค่าทางทรัพยากรที่มีอยู่ โดยเฉพาะ "น้ำพุร้อนเค็ม" มายกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถดึงเงินลงทุนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 

 

 

จากสถิติปี 2562 กระบี่มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเกือบ 7 ล้านคนต่อปี โดยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 4 ล้านคน และในปี 2562 กระบี่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ คิดเป็นตัวเลขประมาณ 1.2 แสนล้านบาท 

 

 

จากปลายปี 2565 ถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย 5 เดือนแรกปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวประมาณ 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวในประเทศ 9,000 ล้านบาท ต่างชาติ 4,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นตลาดสำคัญ ได้แก่ กลุ่มยุโรป และกลุ่มอาหรับ 


 

น.อ.อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. เปิดเผยว่า จุดเด่นของน้ำพุร้อนเค็มที่คลองท่อม คือ มีแร่ธาตุสูงที่เป็นประโยชน์ในด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งปัจจุบันมีภาคเอกชนเริ่มเห็นประโยชน์และนำน้ำร้อนเค็มขึ้นมาใช้ มีการลงทุนทางธุรกิจไปบ้างแล้ว 

 

 

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตภายหลังจากมีการประกาศพื้นที่พิเศษฯ อ.คลองท่อม แล้ว อพท. จะใช้ องค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ท้องถิ่นและชุมชน เพื่อยกระดับคลองท่อมเป็น Wellness City  รวมถึงการเสนอชื่อเข้ารรับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ TOP 100 (Green Destinations Top 100 Stories)