ข่าว

ทนายรณณรงค์เปิดข้อกฎหมาย คลิปร้อนอาม่าตบเด็ก กฎหมายเอาผิดใคร

ทนายรณณรงค์เปิดข้อกฎหมาย คลิปร้อนอาม่าตบเด็ก กฎหมายเอาผิดใคร

20 ธ.ค. 2562

ทนายรณณรงค์เปิดข้อกฎหมาย คลิปร้อนอาม่าตบเด็ก กฎหมายเอาผิดใคร (มีคลิป)

จากกรณี เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Kulniti Srisumrarn โดยโพสต์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. โดยเธอได้เขียนบรรยายเนื้อหาคลิปเอาไว้ว่า "เมื่อวานที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง มีเรื่องก็คืออาม่าไปนั่งเฝ้าหลาน 
แล้วคุยโทรศัพท์เสียงดัง รบกวนเด็กกับผู้ปกครอง คนอื่นๆที่เขาติวหนังสือกันอยู่ และได้มีผู้ปกครองบ่นว่าพูดดัง

อาม่าหันไปด่ากราด เด็กผู้ชายก็หันไปพูดกับอาม่าว่า ที่นี่โรงเรียน อย่ามาทำเสียงดัง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ปล. สมควรครับ ไปตบเค้าก่อน หน้าไม่เหมือนแม่เค้า อย่าไปตบเค้า #ผมแชร์เค้ามาไม่ได้ถ่ายเอง''

ซึ่งในคลิปวิดีโอนั้นคืออาม่ายืนด่ากราดส่งเสียงดังมากต่อหน้าเด็กและผู้ปกครองหลายคน 
ก่อนที่จะเดินมาตบหน้าเด็กนักเรียนอีกคนที่ยืนอยู่จนเกิดการสู้กันและได้มีคนเข้ามาห้ามทั้งคู่ออกจากกันอย่างรวดเร็ว  แต่เรื่องราวยังไม่จบเท่านั้นอาม่าก็ยังลุกขึ้นมาด่า ว่า และพูดว่าจะเอาเรื่องเด็กคนนั้นให้ถึงที่สุด

ทนายรณณรงค์เปิดข้อกฎหมาย คลิปร้อนอาม่าตบเด็ก กฎหมายเอาผิดใคร

ล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ไลฟ์สดอธิบายผ่านทางเพจทนายคู่ใจ ถึงข้อกฎหมาย กรณีการทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างอาม่าและเด็ก ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ 

ทนายรณณรงค์เปิดข้อกฎหมาย คลิปร้อนอาม่าตบเด็ก กฎหมายเอาผิดใคร
เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะในมุมมองทางกฎหมาย การมีเรื่องกัน ด่าทอกันไปมา กฎหมายยังไม่ได้เอาผิด ถ้าไม่ใช่เป็นการดูหมิ่นซึ่งๆหน้า
แต่ถ้าเกิดด่ากันไป ด่ากันมาแล้วใช้กำลังกัน เหมือนในคลิปนี้ ที่อาม่าตบหน้าเด็ก แล้วเด็กสวนกลับ
ถ้าจะดูว่าผิดทางกฎหมาย ต้องดูตั้งแต่ก่อนอาม่าตบ ว่าต้นเหตุเกิดจากอะไร โดยจะอ้างว่าเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาทได้
แต่ตัวน้องจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำความผิดเลย

ผมอยากจะฝากข้อคิด ถ้ามีเรื่องแบบนี้ยังไงก็ผิดกฎหมาย ไม่ได้บอกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ผิด
แต่จะผิดมากผิดน้อยขึ้นอยู่กับคู่กรณีเจ็บมากน้อยเพียงใด ตบหน้าเขาผิดเรื่องทำร้ายร่างกาย
ทำร้ายร่างกายแบบไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ หรือ  ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ จะลหุโทษ หรือ มาตรา 295 ซึ่งโทษ 2 ปี ปรับ 4 หมื่น อยู่ที่บาดแผลที่ทำร้ายร่างกาย

แต่แน่นอน ว่าผู้ใหญ่ทะเลาะกับเด็ก กฎหมายคุ้มครองเยาวชน ประการแรก ถ้าอาม่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ ว่าเด็กทำร้ายร่างกายเด็กจะได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ตามวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน ต่อให้เด็กสวนกลับจนอาม่าน็อคสลบคาที่ ยังไงเด็กก็ไม่ถูกส่งเข้าสถานพินิจ เพราะอาม่าไปตบเขาเอง แต่อาม่าต้องขึ้นศาลผู้ใหญ่ ทำร้ายร่างกายไม่สามารถยอมความได้ 

แต่ทีน่าสนใจ เด็กถูกพักการเรียน ทำไมโรงเรียนถึงไม่คุ้มครองเด็ก แต่เราจะไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูก ทำแบบนี้ผิดกฎหมายทั้งคู่  ถ้าเด็กอายุไม่ถึง 15 ห้ามลงโทษทางอาญา ถ้าเกินกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี ห้ามรับโทษทางอาญา คาดว่าเต็มที่ศาลคงแค่ตักเตือนเด็ก แต่อาม่าไปตบหน้าเด็กศาลคงไม่เตือนอาม่า เพราะกฎหมายต้อง จำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท  

CR.ทนายคู่ใจ