หมอธีระวัฒน์ซัดนายแพทย์ขาดความรู้ความเข้าใจขวางควบคุมโรคโควิด-19
การเผยแพร่ข่าวที่เป็นเท็จ จากการที่ขาดความรู้ความเข้าใจ เท่ากับเป็นการขัดขวางการควบคุมโรคของประเทศไทย
7 เมษายน 2563 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุ เป็นการโพสต์ข้อมูลจากผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องของการหาโรคที่กำลังเป็นอยู่และที่กำลังจะหายหรือหายแล้ว
อ่านข่าว - หมอธีระวัฒน์ชี้ช่องบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19
จริงอยู่การตรวจหาแอนติบอดีที่เป็นการตรวจอย่างรวดเร็วหลายบริษัทใช้ไม่ได้และอยู่ในระหว่างการสอบสวน แต่การพูดในลักษณะของการตรวจโดยวิธีนี้ทั้งหมดว่าใช้ไม่ได้ และต้องใช้ PCR อย่างเดียว แสดงว่าต้องไปทำการเรียนเรื่องนี้ใหม่หมด
การที่จะทราบว่าการตรวจอย่างรวดเร็วเช่นนี้มีมาตรฐานหรือไม่
1. เปรียบเทียบกับการตรวจแอนติบอดีชนิดอื่น เช่น ELISA และผลเทียบเคียงกันได้
2. ผลที่ได้อาจจะไม่ตรงกับการตรวจ PCR ณ จุดเวลาเดียวกัน เนื่องจาก PCR เป็นการหาเชื้อ แต่การพบแอนติบอดีเป็นหลักฐานของการติดเชื้อ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนหน้าจะมีการแพร่เชื้อออกมา หรือเป็นจุดของเวลาที่หยุดการแพร่เชื้อแล้ว และเป็นเหตุผลให้ต้องมีการดูทั้ง IgM และ IgG
3. การตรวจแอนติบอดีในคนๆ เดียวกันนั้นที่ติดเชื้อเมื่อทำการตรวจต่อเนื่องจะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจาก IgM ซึ่งเป็นแอนติบอดีที่เกิดขึ้นก่อนหลังจากที่มีการติดเชื้อไม่นาน และบ่งบอกว่าเป็นช่วงที่ต้องระวังว่ากำลังจะแพร่เชื้อหรือแพร่เชื้ออยู่หรือที่คนชอบเรียกว่าเป็นทัพหน้า
และจากนั้นจะเกิด IgG ซึ่งเป็นทัพหลังและมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคและใครที่มี IgG จะเริ่มกลับไปทำงานได้
4. การตรวจแอนติบอดีในกลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงต่างกัน เช่น คนที่ทำงานคลุกคลีกันอย่างใกล้ชิดและไม่ได้มีเครื่องป้องกันชัดเจนกับคนที่ระมัดระวังตัวตลอด พบว่า ในกลุ่มคนกลุ่มแรกนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อมากกว่าอย่างชัดเจน