น่านเล็งเปิดจังหวัดนำร่องคลายล็อกดาวน์ด้วย "New Normal" คุม โควิด-19 | คมชัดลึก

 

               น่าน หนึ่งในจังหวัดที่ปัจจุบันยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งในระหว่างที่มาตรการล็อกดาวน์ยังคงดำเนินต่อไปเพื่อควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดไม่ให้เพิ่มขึ้น ขณะนี้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดได้ร่วมกันวางแนวทางและรูปแบบผ่อนปรนภายใต้แผนการดำเนินงาน Nan Exit Locked Down สำหรับรองรับมาตรการ “คลายล็อกดาวน์” หากรัฐบาลและส่วนกลางมีมติให้สามารถดำเนินการได้

อ่านข่าว - ด่วน ครม.เคาะแล้ว ยืนยันไม่เลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ทั้ง 4 วัน

 

 

 

               นพ.ดิเรก สุดแดน รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศยังคงมีอยู่ แต่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องใน จ.น่าน ได้มีการพูดคุยและร่วมกันวางรูปแบบผ่อนปรน เพื่อรองรับในกรณีที่รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ เพราะเห็นตรงกันว่าหากไม่วางแผนให้เป็นระบบ จะไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหัวใจสำคัญของ Nan Exit Locked Down นั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ร่วมกับ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อปท. ในการปรับรูปแบบวิถีชีวิต และปฏิบัติตามขั้นตอนการป้องกันที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ กินร้อน ช้อนส่วนตัว และเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด ขณะที่สถานประกอบการ / สมาคมผู้ประกอบการ ต้องร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยออกแบบรูปแบบการให้บริการ ที่ปลอดภัยและถูกต้องตามหลัก New Normal โดยต้องได้รับการตรวจประเมิน และกำกับติดตามจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

               นพ.ดิเรก กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการหลักระดับจังหวัดนั้น เมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ จำเป็นต้องจัดระบบบริหารจัดการเพิ่มเติม เช่น ระบบการเปิดพื้นที่สาธารณะ ระบบการเปิดธุรกิจบริการแบบมีเงื่อนไข โดยการมีส่วนร่วมของธุรกิจและเจ้าของ ระบบการติดตามผลลัพธ์โดยการสุ่มสำรวจ ตามที่ได้กล่าวในข้างต้น ระบบรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และมาตรการเฉพาะกิจ เช่น การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคู่ไปกับการคงไว้ซึ่งมาตรการเดิมที่ทำได้ดีอยู่แล้ว ได้แก่ ระบบการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในจังหวัด โดยด่านควบคุมการเข้าออก ระบบกักตัว 14 วัน ระบบคัดกรองเข้าสถานที่ รวมไปถึงระบบสื่อสารสู่ประชาชน ระบบเฝ้าระวังโรคและการสุ่มตรวจ ระบบป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล และระบบรักษาพยาบาลแบบความเสี่ยงต่ำ เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

               “กรณีที่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศพื้นที่เสี่ยง จะไม่อนุญาตให้เข้าสู่พื้นที่ปลายทางในทันที ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการใน State Quarantine ที่จัดไว้ ส่วนในระดับท้องถิ่นขณะนี้ 150 ตำบลทั่วจังหวัดน่าน ก็มีความพร้อมในการจัดพื้นที่กักตัว สำหรับกลุ่มเสี่ยงลูกหลานที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของชาวบ้านและผู้นำชุมชน” นพ.ดิเรก สุดแดน รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าว

 

 

 

               ทั้งนี้ สำหรับศักยภาพในการตรวจวิเคราะห์เชื้อโควิด-19 นั้น ได้เตรียมความพร้อมโดยขณะนี้ทั่วทั้งจังหวัด มีห้องปฏิบัติการสามารถรองรับได้ 68 ตัวอย่างต่อวัน ส่วนรูปแบบการบริหารแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน คือ เหนือ ภายใต้การรับผิดชอบของโรงพยาบาล 6 แห่ง กลาง 5 แห่ง และใต้ 3 แห่ง ซึ่งทุกแห่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่ต่ำกว่า 3 - 4 รายต่อสัปดาห์ ขณะที่การตรวจเชิงรุกอันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้สามารถควบคุมการระบาดได้ดียิ่งขึ้น เราสามารถให้บริการตรวจผู้ป่วยต้องสงสัย ทั้งในรายที่มีอาการและไม่มีอาการ ขั้นต่ำกำหนดไว้ที่ 50 เคสต่อสัปดาห์ โดย รพ.น่าน และโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ทุกแห่งในจังหวัด มีเตียงรองรับในห้องความดันลบ รวมกัน 19 เตียง และเตียงในห้องแยกโรค รวมกัน 70 เตียง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               อย่างไรก็ตาม ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์มีความสำคัญมาก โดยหากพบว่าเมื่อผ่อนปรนล็อกดาวน์ ประชาชนหย่อนยานในการปฏิบัติตาม แนวทางป้องกันการติดเชื้อ เช่น ไม่ใส่หน้ากาก มีการรวมตัวกันอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพบอัตราติดเชื้อรายใหม่ มากกว่า 1.5 เท่า หรือเกินกว่าศักยภาพรองรับของสถานพยาบาลในจังหวัด ก็จะนำไปสู่การพิจารณากลับสู่มาตรการปิดพื้นที่ช่วงคราวหรือล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์แพร่ระบาดกลับมารุนแรง

 

 

 

--------------------

ที่มา : hfocus.org