ระยองวุ่นพบ "ทหารอียิปต์" ติดเชื้อโควิด เข้าพักโรงแรม เดินเที่ยวห้าง | คมชัดลึก

วันที่ 13กรกฎาคม 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์รายวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย หายป่วยแล้ว 3,090 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,220 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 73 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย ซึ่งถือเป็นวันที่49 ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ

อ่านข่าว - เปิดไทม์ไลน์ติดเชื้อโควิด ศบค.สุดห่วงชาวอียิปต์ติดเชื้อโควิด เดินทางสัมผัสสถานที่ในระยอง เตรียมจับตรวจทั้งหมด

และสำหรับผู้ติดเชื้อ 3 รายเป็นผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ทั้ง 3 รายนั้น เดินทางกลับมาจากประเทศคูเวต 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 48 ปี มีอาชีพรับจ้าง บาห์เรน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 22 ปี และประเทศอียิปต์ 1 ราย เป็นชายสัญชาติอียิปต์ อายุ 43 ปี มีอาชีพทหาร  ซึ่งเดินทางมาพร้อมคณะลูกเรือทั้งหมด31ราย โดยเดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ และ ปากีสถาน เข้าประเทศไทยผ่านทางสนามบินอู่ตะเภาเมื่อวันที่ 8 กค.และเข้าพักยังโรงแรมแห่งหนึ่งในจ.ระยอง และจากนั้นบินไปทำภารกิจที่ เฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันเดียวกัน และกลับเข้าพักยังโรงแรมเดิมที่จ.ระยอง และวันที่11กค.ทั้งหมดเดินทางออกจากไทย กลับอียิปต์ และจากการตรวจคัดกรองอาการลูกเรือ31รายตั้งแต่วันที่10กค.ผลตรวจออกมาจากห้องปฎิบัติการในวันที่12กค.พบว่าลูกเรือติดเชื้อ 1ราย

โฆษก ศบค.กล่าวว่าเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันมากในที่ประชุมศบค.ว่าถึงแม้จะเป็นลูกเรือต่างชาติที่เข้าไทยมาตามข้อกำหนดที่เป็นลักษณะเฉพาะ แต่ปรากฎว่า เมื่อเครื่องบิน บินไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา จึงทำให้มาตราการคุมเข้ม มีข้อที่ต้องทบทวน และต้องปฎิบัติกันใหม่ และต้องถือว่า โรงแรมที่ลูกเรืออียิปต์เข้าพัก เป็นสถานที่ที่พบเชื้อ และจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคลงไปยังพื้นที่ และพร้อมกันนี้ อ.กรมควบคุมโรค ได้ออกมาตราการคุมเข้มเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด 

และนอกจากนี้โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ระหว่างการสอบสวนโรคยังพบว่า ทีมลูกเรือได้ออกจากโรงแรมไปยังสถานที่ต่างๆ ในจ.ระยอง เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคทั้งในพื้นที่และส่วนกลางจะเข้าไปยังสถานที่สัมผัสโรคทุกแห่งที่ลูกเรือเดินทางไป เช่น ห้างสรรพสินค้าในจ.ระยอง โดยหากผู้ใดคิดว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อขอให้โทรศัพท์เข้าไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 1422  
อย่างไรก็ตามโฆษก ศบค.กล่าวยอมรับว่า รู้สึกไม่สบายใจกับกรณีที่เกิดขึ้น และถือเป็นสิ่งที่ ศบค.จะต้องเรียนรู้ และจัดทำข้อกำหนดให้ละเอียดมากขึ้น