ลูกเปิดใจแม่วัย73 ถูกเรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุกว่า 7หมื่น โวยจนท.ให้จ่ายเดือน 18,000
อีกราย เปิดใจคุณยายวัย 73 ปี ถูกเรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุ รวมดอกเบี้ยกว่า 77,000 บาท ลูกชายโวยเจรจาเจ้าหน้าที่ไม่เป็นผล ลั่นส่งไม่ไหวบังคับจ่ายเดือนละ 18,000 บาท รอศาลตัดสิน 18 ก.พ.นี้
วันที่ 27 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายมฤคินทร์ เขียนจอหอ อายุ 42 ปี ลูกชายของนางประจวบ ผะดาวัลย์ อายุ 73 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากได้รับหนังสือขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จ่ายให้กับนางประจวบ ผู้เป็นแม่ ย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นระยะเวลากว่า 11 ปี ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 76,400 บาท และรวมดอกเบี้ยเป็นยอดจำนวน 77,737 บาท
อ่านข่าว ยันอีกเสียง "ทนายตั้ม" ลั่นเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ดราม่าเรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุ
โดยนายมฤคินทร์ ลูกชายของนางประจวบ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บิดาของตนคือ ร้อยตำรวจตรี สัมพันธ์ ผะดาวัลย์ รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน และได้เสียชีวิตลงจากการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในพื้นที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เมื่อปี 2515 ทำให้นางประจวบ แม่ของตนได้รับเงินบำนาญพิเศษตั้งแต่นั้นมา
จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากเทศบาลตำบลจอหอ ขอเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากแม่ของตน ซึ่งปัจจุบันแม่ต้องรักษาอาการป่วยที่ขา ขาขวาเดินไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันเวลาเดินตลอดเวลา และแม่ของตนมีรายได้จากเงินบำนาญพิเศษเพียงทางเดียว ไม่มีรายได้อย่างอื่น
อ่านข่าว ดูกันชัดๆ เปิดเกณฑ์จ่ายโบนัสพนักงาน "กองสลาก" ได้สูงสุด 8 เดือน
ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลจอหอแล้ว แต่ทางเทศบาลขอเรียกเก็บเงินคืนในอัตราที่สูง โดยขอเรียกเงินคืน 3 เดือนแรก ในอัตราเดือนละ 18,000 บาท จากนั้นเดือนที่ 4 เรียกเก็บเงินในอัตราเดือนละ 1,100 บาท ซึ่งตนได้เจรจาขอผ่อนจ่ายเงินก้อนที่ต้องจ่ายคืน 3 เดือนแรก เพราะเป็นอัตราที่สูงเกินไป ครอบครัวของตนจ่ายคืนไม่ไหว แต่ทางเทศบาลไม่ยอม และได้ส่งเรื่องไปฟ้องศาลแขวงนครราชสีมา
ล่าสุดศาลแขวงนครราชสีมาได้มีหมายเรียกให้นางประจวบ ผะดาวัลย์ แม่ของตน ในฐานะจำเลย ไปพบที่ศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การแก้ข้อหาแห่งคดี และสืบพยาน ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ ซึ่งตนและแม่พร้อมที่จะเดินทางไปศาล เพื่อให้ศาลช่วยเป็นที่พึ่งและช่วยพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยด้วยความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของตนด้วย
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา
