ข่าว

หมออัปเดตอาการผู้ว่าสมุทรสาครล่าสุด

หมออัปเดตอาการผู้ว่าสมุทรสาครล่าสุด

28 ม.ค. 2564

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล อัปเดตอาการนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าสมุทรสาครล่าสุด

(28 มกราคม 2564) รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อัปเดตอาการล่าสุดของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าสมุทรสาคร หลังป่วยติดเชื้อโควิด-19

 

 

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า อาการท่านผู้ว่าสมุทรสาครวันนี้ยังทรงตัวไม่มีอะไรเพิ่มเติมจากเมื่อวานมากนัก ผู้ป่วยโควิด-19 ต่างจากผู้ป่วยโรคติดเชื้อทั่วไป เนื่องจากเป็นเชื้ออุบัติใหม่ที่คนยังไม่รู้จักดี ทำให้กลัวว่าถ้าติดแล้วจะเกิดโรครุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

ทำให้ผู้ป่วยโควิดเกิดความแปลกแยกจากสังคมรอบข้าง ทั้งช่วงที่อยู่ในโรงพยาบาลและหลังกลับเข้าสู่ชุมชนแล้ว โดยช่วงอยู่โรงพยาบาลจะมีการจำกัดการเข้าเยี่ยม วางแผนให้การรักษาพยาบาลเท่าที่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงบุคลากร ใช้พูดคุยกับบุคลากรผ่านสื่อต่างๆ แทนการพูดคุยกันต่อหน้า จำกัดการเข้าเยี่ยมของญาติหรือไม่ให้เข้าเยี่ยมถ้าไม่จำเป็น

 

ยิ่งถ้าป่วยวิกฤติด้วยแล้ว เรียกว่าแทบจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เหตุนี้ช่วยส่งเสริมทำให้ผู้ป่วยพลุ่งพล่านต่อต้านการรักษามากขึ้น ทำให้ระยะเวลาการรักษาให้ดีขึ้นทอดเวลาออกไป อีกทั้งผลการรักษาก็อาจออกมาไม่ดีเท่าที่ควรทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย

 

ใกล้เคียงกับที่พ่อเมืองสาครล้มเจ็บ มีผู้ป่วยโควิดรายหนึ่งจากมหาชัยอาการหนักจนต้องส่งต่อมารักษาที่ศิริราช เดิมเคยมีโรคไตเรื้อรังเตรียมการล้างไตอยู่แล้ว แต่เนื่องจากฐานะยากจนจึงขอผัดผ่อนออกไปก่อนจนกระทั่งล้มป่วย ครั้งนี้โควิดทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันเพิ่มขึ้นจนต้องให้การรักษาด้วยการล้างไตฉุกเฉิน

 

หลังจากถอดเครื่องช่วยหายใจออกได้แล้วและค่อยๆ ลดการใช้ออกซิเจนลง เขาบ่นคิดถึงบ้านบ่อยๆ แต่ทีมงานก็ช่วยได้แค่การพูดคุยเท่าที่ทำได้ตอนที่เข้าไปในห้องปลอดเชื้อของผู้ป่วย ถ้าว่างก็จะโทรศัพท์แจ้งลูกเป็นบางครั้งเพราะตัวลูกเขาเองต้องลำบากในการหาเลี้ยงปากท้องช่วงนี้อยู่แล้ว

 

เมื่อวานพอมีเวลาว่างจึงร้องขอไปที่เหล่ากาชาดสมุทรสาคร ทางนั้นตอบรับอย่างว่องไว และได้จัดหาโทรศัพท์มาให้ผู้ป่วยไว้คุยกับญาติโดยตรงจากห้องปลอดเชื้อที่ต้องแยกตัวเองอยู่ และยังช่วยรับปากเตรียมสนับสนุนผู้ป่วยถ้าย้ายกลับสมุทรสาครทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายการล้างไตต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายอื่น

 

วันนี้สังเกตจากภายนอกห้องขณะที่เขาดูทีวีไปและล้างไตไป สีหน้าค่าตาเขาดูแจ่มใส แววตาดูมีความหวังขึ้นมาก คงมองไปไกลถึงการได้กลับบ้านที่มนุษย์ทุกคนรักและห่วงหาไม่ว่าบ้านนั้นจะเล็กเท่ารังหนูหรือใหญ่ดั่งเวียงวัง รวมถึงการกลับไปต่อสู้ชีวิตหลังโควิดที่ยังต้องดำเนินไปอีกยาวไกล

 

 

การแผลงฤทธิ์ของโควิดต่อโรงพยาบาลในสมุทรสาครช่างรุนแรง แม้ช่วงนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นแรงงานต่างชาติจะอยู่ในโรงพยาบาลสนาม แต่ผู้ป่วยคนไทยที่จำนวนลดลงและผู้ป่วยแรงงานต่างชาติที่มีอาการมากจะถูกรักษาในโรงพยาบาลหลัก

 

ประกอบกับผู้ป่วยอื่นของโรงพยาบาลช่วงนี้ต้องมีการคัดกรองโควิดอย่างเข้มงวด ทำให้โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในสมุทรสาครที่มีงานล้นมือ เกิดความขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ เมื่อได้รับแจ้งจากกลุ่มไลน์ผู้ใจบุญที่คอยสนับสนุนวัสดุและสิ่งของเครื่องใช้ในโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศและโรงพยาบาลหลักที่ต้องรับผิดชอบ

 

รพ.สนาม ได้ประสานงานจัดเตรียมเครื่องช่วยหายใจที่ยังพอจัดสรรให้ได้ 3 ตัว ปัญหาว่ามันเป็นการให้ยืมของข้ามหน่วยงานต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้าใหญ่ (ก็คนที่คอยแถลงข่าวทางการความคืบหน้าพ่อเมืองสาครนั่นแหละ) ในใจแอบคิดว่าถ้าไม่ให้จริงๆ จะหาทางหลบเลี่ยงอย่างไรได้บ้าง

 

พอเอ่ยปากแจ้งไม่ทันขาดคำท่านตอบกลับมาทันทีว่า "ถ้าของเราพอใช้ แบ่งให้เขาไปทำประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่จำเป็นดีแล้ว ผมรับผิดชอบทั้งหมดเอง" หัวใจมันพองและฮึกเหิมขึ้นมาพลัน ใครมีหัวหน้าหน่วยงานแบบนี้คงยินดีภักดีองค์กรไม่เสื่อมคลาย รีบไปช่วยคนไกลที่เขารอเราอยู่เลยนะเจ้าเครื่องช่วยหายใจ พอส่งออกไปตอนเย็นยังไม่ทันไร ค่ำนี้ได้รับแจ้งว่าเครื่องได้ถูกนำไปใช้งานแล้ว

 

อ่านข่าว : ผู้ว่าสมุทรสาคร น้ำตาไหล ห่วง โรงพยาบาลคนสาคร