เช็กที่นี่ รวมทุกมาตรการเยียวยาโควิดระลอก 3 | คมชัดลึก

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.64) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่งเพื่อระงับยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนจากการได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดระลอก 3 หลากหลายโครงการ เช่น คนละครึ่งเฟส3 , ม33เรารักกัน , เราชนะ , บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมไปถึงมาตรการลดค่าน้ำค่าไฟ 

อ่านข่าว : ด่วน ครม. ไฟเขียว แจกเงิน "คนละครึ่งเฟส3" คนละ 3,000 บาท

อ่านข่าว : ด่วน เราชนะ ม.33 เรารักกัน คนละครึ่ง เฟส 3 กระตุ้นเศรษฐกิจ 85,500 ล้านบาท

และวันนี้คมชัดลึกได้รวบรวม มาตรการในการเยียวยาโควิดระลอก3 มีมาตรการอะไร และเงื่อนไขอย่างไรบ้าง 

1.คนละครึ่งเฟส3 

-จ่ายเงินให้ประชาชนเข้าระบบเป๋าตัง จำนวนเงิน 3000 บาท 
-ใช้จ่ายวันละไม่เกิน 150 บาท
-ผู้ที่ได้รับต้องอายุเกิน 18 ปี ณ วันที่ลงทะเบียน
-มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
-ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

2.เราชนะ
-กรอบวงเงิน 67,000 ล้านบาท
-จ่ายเพิ่ม 2,000 บาท 
-จ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 
-ใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 
-กลุ่มเป้าหมาย 3.29 ล้านคน 

3.ม33เรารักกัน
-กรอบวงเงิน 18,500 ล้านบาท
-จ่ายเพิ่ม 2,000 บาท
-จ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 
-ใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 
-กลุ่มเป้าหมาย 9.27 ล้านคน 

4.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 
-เพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ที่ถือบัตรคนจน จ่ายเงินเข้าบัตรเพิ่ม 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน 
-เริ่มจ่ายเดือน กรกฎาคม - ธันวาคม 2564 
-กลุ่มเป้าหมาย 13.65 ล้านคน 
 

5.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 
-จ่ายคนละ 7,000 บาท
-ให้ e-voucher สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาท
-ใช้ซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม และบริการกับผู้ประกอบการ
ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
-ระยะเวลา 5 เดือน (สิงหาคม - ธันวาคม 2564)
-กลุ่มเป้าหมาย 31 ล้านคน

สำหรับการเพิ่มเงินในโครงการเราชนะ และโครงการ ม.33 เรารักกัน หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการจะเร่งนำเสนอโครงการให้พิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งได้กำหนดให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าต่อไป นอกจากนี้ยังจะมีมาตรการต่อเนื่องอื่นๆอีก เช่นการช่วยเหลือลูกหนี้กยศ. โดยการขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมสู้ภัยโควิดออกไปจนสิ้นปีนี้ และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.01

ขอบคุณ : ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด